ดร.ธรณ์ ชี้เป้า ‘จังหวัดปลอดฝุ่น-ภัยพิบัติน้อย’ ภาคใต้ยังครองแชมป์เมืองน่าอยู่

2 ธ.ค. 2568 - 07:09

  • เปิดข้อมูลแผนที่ PM2.5 ของ GISTDA สะท้อนหลายจังหวัดเผชิญฝุ่นเกินมาตรฐานยาวนาน

  • จากชุมพรลงไปฝุ่นต่ำ เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ–นนทบุรีที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานมากกว่า 78 วันต่อปี และหลายจังหวัดเหนือ-อีสานเจอหนักเกิน 112 วัน

  • ดร.ธรณ์ แนะเลือกทำเลยุคใหม่ต้องดูทั้งระดับความสูง ความเสี่ยงน้ำท่วม สึนามิ–ไต้ฝุ่น และประวัติภัยย้อนหลัง 30 ปี

ดร.ธรณ์ ชี้เป้า ‘จังหวัดปลอดฝุ่น-ภัยพิบัติน้อย’ ภาคใต้ยังครองแชมป์เมืองน่าอยู่

ประเทศไทยยังตั้งรับลมหนาวยาวข้ามเดือน ทว่า สิ่งที่แถมมาคือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มาตามนัด ล่าสุดวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความชี้เป้า เราจะย้ายไปอยู่จังหวัดไหนดี ที่ฝุ่นน้อย ภัยพิบัติไม่ค่อยมี และคุณภาพชีวิตยังดี?
พร้อมนำข้อมูลแผนที่ฝุ่นจาก GISTDA และมุมมองด้านภัยธรรมชาติมาอธิบายแบบชัดเจน ตรงไปตรงมา

หนีฝุ่น PM2.5

“ภาคใต้” สะอาดที่สุดในประเทศ

ดร.ธรณ์ระบุว่า เมื่อดูจากข้อมูลแผนที่ PM2.5 ของ GISTDA จะเห็นชัดว่าหลายจังหวัดของไทยเผชิญฝุ่นเกินมาตรฐานจำนวนมาก โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และนนทบุรีที่มีตัวเลข 78 วันต่อปีขึ้นไป
แต่หากต้องการ “หนีฝุ่นจริงจัง” คำตอบคือ ภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่ชุมพรลงไป ยังคงปลอดฝุ่นระดับ “น้อยมาก” เมื่อเทียบกับทุกภูมิภาคในประเทศ

591972577_26347314184857102_1894982603747123403_n.jpg

ข้อมูลจาก GISTDA ปี 2567 ยังยืนยันแนวโน้มเดียวกัน มากกว่า 25 จังหวัด เจอ PM2.5 เกินมาตรฐานยาวนาน กว่า 4 เดือน อีก 28 จังหวัด เผชิญปัญหาเกินมาตรฐานรวม มากกว่า 3 เดือน
ขณะที่หลายพื้นที่ภาคเหนือและอีสานตอนบน มีวันที่ฝุ่นเกินมาตรฐานสูงสุดเกิน 112 วันต่อปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึงเมษายนหลายพื้นที่ต้องรับมือฝุ่นต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง

ดร.ธรณ์ จึงสรุปว่า หากต้องการอากาศดีที่สุด “ภาคใต้” ยังเป็นตัวเลือกที่แข็งแรงที่สุดของไทย

หนีภัยธรรมชาติ

เลือกจังหวัดดี แต่ต้องดู “ความสูง-สภาพพื้นที่” ประกอบ

แม้ภาคใต้จะปลอดฝุ่น แต่ยังต้องพิจารณาความเสี่ยงภัยพิบัติอื่นควบคู่
ดร.ธรณ์ อธิบายเป็นประเด็นดังนี้

สึนามิ– กระทบเฉพาะฝั่งอันดามัน ฝั่งอ่าวไทย แม้เกิดคลื่นก็สูงเพียงระดับหัวเข่า
หากจะอยู่ฝั่งอันดามันจริง ควรเลือกพื้นที่สูงกว่าระดับคลื่นเดิมอย่างน้อย 4–5 เมตร เพื่อป้องกันทรัพย์สินเสียหาย

ไต้ฝุ่น– มักเข้าเฉพาะฝั่งอ่าวไทย แต่สถิติจริง “น้อยมาก”
ในชีวิตของ ดร.ธรณ์ พายุไต้ฝุ่นแรงเคยเกิดเพียง “พายุเกย์” เท่านั้น 10 ปีหลังสุด พายุหนักที่สุดในอ่าวไทยยังเป็นเพียงพายุโซนร้อน “ปาบึก”
จึงถือว่าเป็นความเสี่ยงระดับต่ำมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่กัดเซาะชายฝั่งถาวร

น้ำท่วม/ดินถล่ม– เกิดได้ทุกจังหวัดในไทย และมีแนวโน้มหนักขึ้นตามภาวะโลกร้อน
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านควรศึกษา “สถิติย้อนหลังอย่างน้อย 30 ปี”
เลือกที่ดินสูงกว่าจุดที่เคยท่วม 4–5 เมตร และประเมินเส้นทางอพยพช่วงฉุกเฉิน

“ภัยธรรมชาติยุคใหม่...ไม่สามารถเลี่ยงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราลดความเสี่ยงได้ด้วยการเลือกทำเลอย่างรอบด้าน”

ดร.ธรณ์ ย้ำ

กฎหมายอากาศสะอาด ความหวังที่ยังต้องรอ

ดร.ธรณ์ ยังกล่าวถึงความล่าช้าของ “พ.ร.บ.อากาศสะอาดที่ยังไม่ผ่านสภา และต้องรอขั้นตอนกฎหมายลูกอีกหลายชั้นกว่าจะบังคับใช้
ดร.ธรณ์ถึงกับเปรยว่า
“ชีวิตผมอาจยืนยาวไม่พอ ฝากไว้ให้ลูกก็แล้วกัน”

ประเด็นนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า การรอความคุ้มครองจากกฎหมายอาจไม่ทันต่อวิกฤตสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน จึงยิ่งต้องพึ่งการปกป้องสุขภาพระดับครัวเรือนมากขึ้น เช่น หน้ากาก เครื่องฟอกอากาศ และการติดตามค่าฝุ่นประจำวันผ่านแพลตฟอร์มของ GISTDA

Environment-winter-storms-thailand-74-year-record-SPACEBAR-Photo02.jpg

ท้ายที่สุด การเลือกจังหวัด…ต้องมากกว่าเรื่องฝุ่น

เมื่อจัดการทุกปัจจัยสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเหลือเงื่อนไขเฉพาะบุคคล เช่น
ค่าครองชีพ การจราจร โรงพยาบาล โรงเรียน สนามบิน และไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
ดร.ธรณ์ยอมรับว่า หากเป็นตัวเขาเอง
“เกิดเอกมัย ต้องตายเอกมัย”
แต่ก็ใช้วิธีเลี่ยงฝุ่นด้วยการเดินทางตามฤดูกาล เช่น ไปเหนือช่วงอากาศดี และกลับกรุงเทพฯ เมื่อภาคเหนือเริ่มมีฝุ่น

หากต้องเลือกจริง ดร.ธรณ์มองว่า “ตรัง” และ “กระบี่” เป็นจังหวัดสมดุลทั้งอากาศดี ธรรมชาติสวย และมีสนามบิน แต่ก็ต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและเลือกทำเลสูงขึ้น

โลกกำลังร้อน ฝุ่นกำลังหนา การย้ายที่อยู่คือการวางแผนระยะยาว

ข้อมูลจากทั้งนักวิชาการ และ GISTDA สะท้อนร่วมกันว่า
ประเทศไทยกำลังเผชิญยุคที่ “ฝุ่น-ฝน-ภัยพิบัติ” เป็นวัฏจักรที่ทวีความถี่ขึ้น
การเลือกทำเลอยู่อาศัยจึงไม่ใช่เรื่องความชอบอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องความปลอดภัย สุขภาพ และคุณภาพชีวิตในระยะยาว

คำถามจึงไม่ได้มีแค่ว่า “จังหวัดไหนดี?”
แต่เป็น...เราพร้อมแค่ไหนในการใช้ชีวิตในยุคที่สภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์