บทวิเคราะห์: ประเทศไทยในตารางความเสี่ยงภัยพิบัติโลก จากอันดับ 72 ทะยานขึ้นสู่ 17

1 ธ.ค. 2568 - 08:37

  • ประเทศไทยในตารางความเสี่ยงภัยพิบัติโลก จากอันดับ 72 ทะยานขึ้นสู่ 17 ความเสี่ยงระยะยาว 30 ปี อันดับที่ 22

  • ฝนสะสมหาดใหญ่มากที่สุดในรอบ 300 ปี สะท้อน Climate Change ชัดเจน

  • ฟิลิปปินส์ เมียนมา เวียดนาม ติด Top 10 โลก ภูมิภาคอาเซียนกำลังกลายเป็นศูนย์กลางความเสี่ยงใหม่ของโลก

บทวิเคราะห์: ประเทศไทยในตารางความเสี่ยงภัยพิบัติโลก จากอันดับ 72 ทะยานขึ้นสู่ 17

รายงาน Climate Risk Index 2026 ขององค์กร Germanwatch ส่งสัญญาณเตือนชัดเจนว่า “วิกฤตสภาพภูมิอากาศ” ไม่ได้เป็นแนวโน้มในอนาคตอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นความเสี่ยงระดับชาติของไทยที่เห็นได้ในเวลาอันสั้น หลังพบว่าไทยไต่ระดับความเสี่ยงแบบก้าวกระโดดจากอันดับที่ 72 ในปี 2022 มาสู่อันดับที่ 17 ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงอันดับที่เร็วที่สุดในภูมิภาค พร้อมสะท้อนถึงความเปราะบางต่อเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอย่างชัดเจน ส่วนความเสี่ยงระยะยาว 30 ปี ไทยอยู่อันดับที่ 22 จากอันดับที่ 30 ในปี 2022 แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของไทยเพิ่มสูงขึ้น

sustainability-thailand-climate-risk-index-2026-extreme-weather-ranking-17-SPACEBAR-Photo01.jpg

รายงานนี้วิเคราะห์เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วทั่วโลกตลอดช่วง 30 ปี (1995–2024) โดยพิจารณาจากความสูญเสียทางเศรษฐกิจ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบ พบข้อมูลสำคัญว่าโลกได้เผชิญภัยพิบัติกว่า 9,700 เหตุการณ์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 832,000 ราย และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประเทศไทย: สัญญาณชัดจากเหตุการณ์ “ฝน 300 ปีหาดใหญ่”

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ผลักดันอันดับความเสี่ยงของไทยให้พุ่งขึ้นคือ ฝนตกหนักในหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มากถึง 350 มิลลิเมตรต่อวัน ซึ่งเป็นค่าสูงที่สุดในรอบ300ปี นักวิชาการด้านอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ปริมาณฝนระดับนี้ไม่เพียงสร้างอุทกภัยครั้งใหญ่ แต่ยังบ่งชี้ “การเปลี่ยนรูปแบบฝน” อันเป็นผลพวงจาก Climate Change โดยตรง

“นี่เป็นตัวอย่างเหตุการณ์สุดขั้วที่บ่งบอกว่าไทยไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไป”

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าว

พร้อมกันนี้อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมชี้ว่าภัยพิบัติล่าสุดที่เกิดในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ ตอกย้ำว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานไทยยังไม่พร้อมรับสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น นอกจากน้ำท่วม ไทยยังมีความเสี่ยงเพิ่มในด้านคลื่นความร้อนที่ทวีความรุนแรง และฝนสั้น–หนัก เรนบอมบ์ที่เกิดเฉียบพลันมากขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่เมืองที่เกิด Urban Flood เกือบทันทีที่ฝนตกหนัก

Climate Risk Index 2026
Climate Risk Index 2026

ภาพรวมโลก 3 ทศวรรษของความถี่ภัยพิบัติที่พุ่งขึ้นแบบทวีคูณ

รายงาน CRI ระบุว่า

◦                         คลื่นความร้อนและพายุ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดรวมกัน 66%

◦                         น้ำท่วม สร้างผลกระทบต่อประชากรมากที่สุด 48%

◦                         พายุ ทำความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงสุด 2.64 ล้านล้านดอลลาร์

สถิติเหล่านี้สะท้อนภาพว่าภูมิอากาศโลกกำลัง “หลุดกรอบเดิม” แม้เอลนีโญในปี 2024 จะทำให้บางเหตุการณ์รุนแรงขึ้น แต่ นักวิทยาศาสตร์ด้าน Attribution Science ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์เป็นสาเหตุ มีบทบาท “มากกว่าเอลนีโญ” ในการผลักดันให้เหตุการณ์รุนแรงกว่าที่เคยเป็น

unusual-alignment-two-climate-forces-behind-floods-southeast-asia-SPACEBAR-Photo01.jpg

อาเซียน: กลายเป็นศูนย์กลางความเสี่ยงใหม่ของโลก

ปี 2024 ถือเป็นปีที่ภูมิภาคอาเซียนถูก Spotlight อย่างหนักในรายงาน CRI

•                         ฟิลิปปินส์ อันดับ 7 — เจอพายุ 6 ลูก ภายใน 30 วัน

•                         เมียนมา อันดับ 9 — มีผู้เสียชีวิตกว่า 800 ราย จากไต้ฝุ่นยากิ

•                         เวียดนาม อันดับ 10 — เจอพายุลม 280 กม./ชม. สร้างความเสียหายกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์

•                         ไทย อันดับ 17 — ความเสี่ยงเพิ่มเร็วที่สุดในภูมิภาค

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าอาเซียนมี “ความเปราะบางเชิงระบบ” อันมีปัจจัยมาจาก

•                         เศรษฐกิจพึ่งพาเกษตร–ประมง

•                         เมืองขยายตัวรวดเร็ว

•                         ชุมชนริมน้ำจำนวนมาก

•                         ระบบเตือนภัยไม่ทันกับเหตุการณ์สุดขั้วที่เกิดถี่ขึ้น

ผลลัพธ์คือภูมิภาคนี้เริ่มกลายเป็น หนึ่งในพื้นที่เสี่ยงสูงที่สุดในโลกต่อสภาพอากาศสุดขั้ว

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ไทยเดินหน้าระบบเตือนภัย–NAP–กฎหมาย Climate Change

เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ ไทยจึงเริ่มปรับโหมดรับมืออย่างจริงจัง อาทิ

•                         ปรับระบบเตือนภัยพิบัติตามเป้าหมาย Global Goal on Adaptation (GGA)

•                         เดินหน้าแผนปรับตัวต่อ Climate Change แห่งชาติ (NAP) กับ 6 ภาคส่วน

•                         พัฒนาดัชนี CRI เวอร์ชันไทยรายจังหวัด

•                         เร่งผลักดัน พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

•                         ตั้งเป้า Net Zero ปี 2050 เร็วขึ้นจากที่ตั้งไว้ในปี 2065 (15 ปี)

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนว่ารัฐเริ่มมอง Climate Change ไม่ใช่ปัญหาสิ่งแวดล้อมธรรมดา แต่เป็นปัญหาความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ–สังคม–ทรัพยากรของประเทศ

น้ำท่วมภาคใต้ ประเทศไทย ปี 2568

ภาพเตือนว่าไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “ยุคสภาพอากาศสุดขั้วอย่างเต็มรูปแบบ”

เหตุการณ์น้ำท่วม 300 ปีหาดใหญ่ พายุรุนแรงในอาเซียน
คลื่นความร้อนที่ยาวขึ้นทุกปี
ฝนสั้น–หนักที่เกินแบบจำลองเดิม รวมถึงสถิติใหม่จากรายงาน Climate Risk Index 2026 ทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณว่าไทยต้องเร่งปรับตัวเชิงระบบ ขยายระบบเตือนภัย และสร้างภูมิคุ้มกันให้ทันกับโลกที่กำลังร้อนขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ประสบการณ์ของรัฐบาลจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ล่าสุดจะเป็นบทเรียนประเทศไทยว่าไม่สามารถรอให้ภัยพิบัติเกิดก่อนแล้วจึงแก้ไขได้อีกต่อไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์