ข้อมูลล่าสุดของหน่วยงานติดตามสภาพภูมิอากาศยุโรป โคเปอร์นิคัส (Copernicus Climate Change Service: C3S) เปิดเผยสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของ “ภาวะโลกร้อน” เร่งตัว เมื่อปี 2025 กำลังจะจบลงในฐานะ “ปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก” เทียบเท่าปี 2023 และตามหลังเพียงสถิติในปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่ “ร้อนที่สุด” เท่าที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก
อุณหภูมิเฉลี่ยโลก 2025 ตัวเลขสถิติที่ลำดับขึ้นทุกปี
- อุณหภูมิเฉลี่ยโลกในช่วง มกราคม–พฤศจิกายน 2025 เพิ่มขึ้น 1.48°C เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม
- ตัวเลขนี้ “เทียบเท่า” สถิติของปี 2023 ซึ่งเป็นปีร้อนสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์
- หากแนวโน้มเดือนธันวาคมไม่ผิดคาด ปี 2025 จะเป็นปีร้อนอันดับ 2 ร่วมในประวัติศาสตร์

ดร.ซาแมนธา เบอร์เจส หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศของ C3S ระบุว่า ค่าเฉลี่ย 3 ปี (2023–2025) กำลังจะ “ทะลุแนว 1.5°C ต่อเนื่องกันเป็นครั้งแรก” นับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนรุนแรงกว่าการพุ่งขึ้นชั่วคราวในบางเดือน เพราะค่าเฉลี่ยหลายปีสะท้อนแนวโน้มถาวรของระบบภูมิอากาศ
พฤศจิกายน 2025 เดือนที่ร้อนอันดับ 3 ของโลก
เดือนพฤศจิกายนปีนี้ถูกบันทึกว่าเป็น
- เดือนพฤศจิกายนร้อนที่สุดอันดับ 3 นับตั้งแต่เริ่มบันทึก
- ณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลก 14.02°C
- สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว (1991–2020) ถึง 0.65°C
- สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.54°C
นับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่อุณหภูมิรายเดือนของโลกทะลุ 1.5°C หลังจากเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเร่งตัวของความร้อนกำลังเกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง
สถิติฤดูใบไม้ร่วงซีกโลกเหนือ (ก.ย.–พ.ย.)
โคเปอร์นิคัส รายงานว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ทั่วซีกโลกเหนือสูงเป็นอันดับ 3 รองจากปี 2023 และ 2024 ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มที่อุณหภูมิรายฤดูกาลยังคงเกินค่าเฉลี่ยทั่วโลกในเกือบทุกเดือนของปี

สถิติภัยพิบัติสะท้อนความผิดปกติของอุณหภูมิ
สถิติอุณหภูมิที่พุ่งสูงสัมพันธ์โดยตรงกับเหตุการณ์สุดขั้วที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ เช่น
- ฟิลิปปินส์ เผชิญพายุไต้ฝุ่นต่อเนื่องหลายลูกในเดือนพฤศจิกายน มีผู้เสียชีวิตราว 260 คน
- อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย เผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่
- ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้และบางส่วนของอเมริกาเผชิญภัยแล้งรุนแรง
ข้อมูลเหล่านี้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกและความไม่เสถียรของระบบภูมิอากาศที่นักวิทยาศาสตร์เตือนมานาน
ความยั่งยืนและการลดคาร์บอน ตัวเลขกำลังไล่ทันโลก
แม้ว่าประเทศต่างๆ จะประกาศเป้าหมายลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในการประชุม COP28 แต่รายงานประจำปีและการประชุม COP30 ล่าสุด สะท้อนว่าความคืบหน้า “ช้ากว่าที่วิทยาศาสตร์ระบุว่าจำเป็น” ในขณะที่ตัวเลขด้านอุณหภูมิยังคงขยับขึ้นทุกปี
สิ่งเหล่านี้สะท้อนช่องว่างสำคัญระหว่าง “ความจำเป็นทางวิทยาศาสตร์” และ “การดำเนินนโยบาย” ที่ยังไม่ตอบสนองต่อระดับความรุนแรงของสถานการณ์
สถิติใหม่จะกลายเป็น “ความปกติใหม่”
ตัวเลขอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพียงหลักทศนิยม ไม่ได้เป็นเรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป เมื่อความร้อนสะสมทำให้ฤดูกาลแปรปรวน พายุรุนแรงขึ้น และเกิด “น้ำท่วม” ภัยแล้งถี่ขึ้น ตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกเราว่า ปีที่ร้อนที่สุดอาจจะไม่ได้หยุดที่ปี 2024 และอันดับ 2 อาจกลายเป็นค่าพื้นฐานใหม่หากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม



