คำขวัญวันเด็ก 2569 ‘รักชาติไทย ใส่ใจโลก’ รัฐส่งสัญญาณใหม่ยกให้สิ่งแวดล้อมเป็นวาระแห่งชาติ

17 ธ.ค. 2568 - 07:40

  • บทวิเคราะห์: เราเห็นอะไรในคำขวัญวันเด็ก 2569

  • จาก “เด็กดีของชาติ” สู่ “พลเมืองดีของโลก” ครั้งแรกที่คำขวัญวันเด็กเชื่อม “ความรักชาติ” เข้ากับประเด็น “สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน”

  • มองอนาคตประเทศไทยที่รัฐบาลฝากไว้ในมือคนรุ่นถัดไป จากคำขวัญวันเด็ก

คำขวัญวันเด็ก 2569 ‘รักชาติไทย ใส่ใจโลก’ รัฐส่งสัญญาณใหม่ยกให้สิ่งแวดล้อมเป็นวาระแห่งชาติ

“รักชาติไทย ใส่ใจโลก”

คำขวัญวันเด็ก 2569 โดยอนุทิน ชาญวีระกุล นายกรัฐมนตรี

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2569 “รักชาติไทย ใส่ใจโลก” ที่ อนุทิน ชาญวีระกุล นายกรัฐมนตรี มอบให้เด็กและเยาวชนไทย สะท้อนการขยับกรอบความคิดของรัฐต่อบทบาทเด็กในสังคมร่วมสมัย จากเดิมที่คำขวัญวันเด็กมักเน้น “คุณธรรมส่วนบุคคล” เชิดชูคุณธรรม การมีวินัย ใส่ใจการเรียนรู้ สู่การเชื่อมโยงความเป็นพลเมืองเข้ากับความรับผิดชอบต่อโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยยะ

ในบริบทที่ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตสิ่งแวดล้อมซ้อนวิกฤต ตั้งแต่มลพิษอากาศ PM2.5 ภัยพิบัติจากสภาพอากาศสุดขั้ว ไปจนถึงแรงกดดันด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศจากเวทีโลก คำขวัญนี้จึงไม่ใช่เพียงถ้อยคำเชิงพิธีกรรม แต่เป็นสัญญาณทางการเมืองที่ควรถูกอ่านอย่างจริงจัง

จาก “เด็กดีของชาติ” สู่ “พลเมืองดีของโลก”

“สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม”

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2551 โดยสุรยุทธ์ จุลานนท์

“คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม”

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2553 โดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

“กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง”

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยประยุทธ์ จันทร์โอชา

หากย้อนดูคำขวัญวันเด็กในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา จะพบว่าประเด็นหลักมักวนเวียนอยู่กับวินัย ความกตัญญู ความสามัคคี และการเป็น “เด็กดี” ในกรอบสังคมแบบเดิม เช่น การเน้นเชื่อฟังผู้ใหญ่ ตั้งใจเรียน หรือเป็นกำลังของชาติในอนาคต

คำขวัญเหล่านั้นสะท้อนมุมมองที่มองเด็กเป็นทรัพยากรของรัฐ มากกว่าจะเป็นผู้มีบทบาทกำหนดอนาคตของสังคม ในขณะที่ประเด็น “สิ่งแวดล้อม” แทบไม่ปรากฏในฐานะโจทย์หลักของประเทศ

การปรากฏของคำว่า “ใส่ใจโลก” ในคำขวัญวันเด็กปี 2569 จึงถือเป็นการเปลี่ยนโทนอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นครั้งที่รัฐตั้งใจสื่อสารกับเด็กโดยยอมรับกลายๆ ว่า อนาคตของชาติไม่อาจแยกออกจากวิกฤตระดับโลก โดยเฉพาะวิกฤตสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ

childrens-day-2569-love-thailand-care-for-the-world-2.jpg

ความรักชาติในยุคที่ทรัพยากรกำลังเสื่อมถอย

การวาง “รักชาติไทย” ควบคู่กับ “ใส่ใจโลก” สะท้อนการขยายความหมายของความรักชาติ จากเรื่องอัตลักษณ์และความภักดี ไปสู่การปกป้องฐานทรัพยากรที่ทำให้ชาติดำรงอยู่ได้จริง

ประเทศไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง น้ำท่วมและภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ ป่าไม้และทะเลที่เสื่อมโทรม รวมถึงผลกระทบจากการพัฒนาเชิงโครงสร้างที่ยังเป็นข้อถกเถียงกับชุมชนท้องถิ่น ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่กระทบโดยตรงต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ

ในบริบทนี้ ความรักชาติที่ไม่เชื่อมโยงกับการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จึงยากจะตอบโจทย์ความเป็นจริง

sustainability-copernicus-2025-heat-second-hottest-SPACEBAR-Thumbnail.jpg

“ใส่ใจโลก” กับบทบาทของไทยบนเวทีสภาพภูมิอากาศ

อีกด้านหนึ่งคำว่า “ใส่ใจโลก” ยังสะท้อนสถานะของประเทศไทยในฐานะประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโลกร้อนสูง แม้จะไม่ใช่ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลักของโลก

การสื่อสารกับเด็กและเยาวชนในกรอบนี้ หมายความว่ารัฐยอมรับแล้วว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่อาจแก้ไขได้ด้วยกรอบคิดแบบชาตินิยมแคบๆ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลก

อย่างไรก็ตาม การ “ใส่ใจโลก” จะมีน้ำหนักจริงหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการแปลงคำขวัญไปสู่ท่าทีเชิงนโยบายที่สอดคล้องกัน

ช่องว่างระหว่างถ้อยคำกับการปฏิบัติ

แม้คำขวัญวันเด็ก 2569 จะสื่อสารแนวคิด “ความยั่งยืน” อย่างชัดเจน แต่ในทางปฏิบัติประเทศไทยยังคงเผชิญความย้อนแย้งเชิงนโยบาย ทั้งการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่คืบหน้าอย่างจำกัด และการบังคับใช้กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่ยังไม่เข้มแข็ง

หลายโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ยังถูกตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศและชุมชน ซึ่งสะท้อนว่าความ “ใส่ใจโลก” ยังไม่ถูกยกระดับเป็นเงื่อนไขหลักของการตัดสินใจเชิงนโยบาย

ในแง่นี้ คำขวัญวันเด็กจึงทำหน้าที่เป็นมากกว่าสารถึงเด็ก แต่เป็นบททดสอบความจริงใจของรัฐเอง

childrens-day-2569-love-thailand-care-for-the-world-3.jpg

เด็ก เยาวชน และความรับผิดชอบข้ามรุ่น

เด็กและเยาวชนคือกลุ่มที่จะต้องเผชิญผลกระทบจากวิกฤตสิ่งแวดล้อมยาวนานที่สุด คำขวัญ “รักชาติไทย ใส่ใจโลก” จึงมีนัยของความรับผิดชอบข้ามรุ่น หากรัฐต้องการให้ถ้อยคำนี้มีความหมาย จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพียงสื่อสารเชิงสั่งสอน

การเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมต้องเชื่อมโยงกับชีวิตจริง โครงสร้างเศรษฐกิจ และความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่จำกัดอยู่เพียงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในวันสำคัญ

คำขวัญที่สะท้อนจุดเปลี่ยน หรือเพียงการปรับภาพลักษณ์

ท้ายที่สุด คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ 2569 อาจถูกมองได้สองทาง หนึ่ง คือสัญญาณของการยอมรับอย่างจริงจังว่า สิ่งแวดล้อมคือแกนกลางของอนาคตประเทศ หรืออีกทาง คือความพยายามปรับภาพลักษณ์ให้สอดรับกระแสโลก โดยที่โครงสร้างการพัฒนายังไม่เปลี่ยนตาม

สำหรับมุมองด้านสิ่งแวดล้อม คำขวัญนี้จึงไม่ควรถูกปล่อยผ่านในฐานะข่าวเชิงพิธีกรรม หากแต่ควรถูกใช้เป็นจุดตั้งคำถามว่า ประเทศไทยจะทำให้ “รักชาติไทย ใส่ใจโลก” เป็นความจริงได้มากเพียงใด ในโลกที่เวลาของสิ่งแวดล้อมกำลังนับถอยหลัง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์