ศาลสูงลอนดอนเริ่มพิจารณาคดีดีเซลเกตครั้งใหญ่
ศาลสูงลอนดอนเริ่มพิจารณาคดีความแพ่งครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีค่ายรถยนต์ชั้นนำ 5 แบรนด์ ได้แก่ เมอร์เซเดส เบนซ์ ฟอร์ด เปอโยต์-ซิตรอง เรโนต์ และนิสสัน เข้าสู่การพิจารณาคดีข้อกล่าวหาใช้ระบบโกงเครื่องมือวัดค่าปล่อยมลพิษในรถดีเซล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุฉ้อโกงการปล่อยมลพิษที่สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมรถยนต์โลกมานานกว่าหนึ่งทศวรรษ
การพิจารณาคดีครั้งนี้จะตัดสินว่าระบบที่ติดตั้งในรถดีเซลของแบรนด์ต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อโกงกฎหมายคุณภาพอากาศหรือไม่ ทั้ง 5 บริษัทจำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ผู้ขับขี่กว่า 1.8 ล้านคนยื่นฟ้อง
มาร์ติน เดย์ ทนายความจากสำนักงาน Leigh Day ที่เป็นตัวแทนผู้ฟ้อง กล่าวว่าการพิจารณาคดีครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ และอาจเป็นการปูทางไปสู่การจ่ายค่าชดเชยมูลค่าหลายพันล้านปอนด์
การพิจารณาคดีที่คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือน เกิดขึ้นหลังจากผู้ขับขี่ในสหราชอาณาจักร 1.8 ล้านคนยื่นข้อร้องเรียนต่อจำเลย 5 รายหลัก รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เช่น จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ โตโยต้า วอกซ์ฮอลล์-โอเปิล และบีเอ็มดับเบิลยู
รากเหง้าของคดีฉ้อโกงการปล่อยมลพิษ
คดีฉ้อโกงการปล่อยมลพิษ ปะทุครั้งแรกในเดือนกันยายน 2015 เมื่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เยอรมนี โฟล์คสวาเกน ถูกเปิดโปงว่าโกงการทดสอบมลพิษโดยติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกว่า ‘defeat devices’ เพื่อลดค่าการอ่านไนโตรเจนออกไซด์
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โลก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายรายติดพัน และนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายในหลายประเทศ
ค่ายรถยนต์ปฏิเสธข้อกล่าวหา
เมอร์เซเดส เบนซ์ แถลงว่าซอฟต์แวร์ควบคุมการปล่อยมลพิษอิงตามความจำเป็นทางเทคนิค ไม่ใช่ความพยายามที่จะโกงการทดสอบของหน่วยงานกำกับดูแล โดยกลไกเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ทั้งในแง่เทคนิคและกฎหมาย ตามที่โฆษกระบุ
เมอร์เซเดส เบนซ์ และฟอร์ด ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ว่า ไม่มีมูลความจริง ส่วนนิสสันปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เรโนต์และสเตลลันติส บริษัทแม่ของเปอโยต์และซิตรอง ต่างระบุว่ารถยนต์ที่ขายเป็นไปตามกฎระเบียบในขณะนั้น
ผลพวงจากคดีโฟล์คสวาเกน
ศาลสูงในปี 2020 ตัดสินว่าโฟล์คสวาเกนใช้ defeat devices ซึ่งผิดกฎของสหภาพยุโรปในการผ่านการทดสอบการปล่อยมลพิษ โฟล์คสวาเกนยุติคดีแบบกลุ่มนอกศาล โดยจ่าย 193 ล้านปอนด์ (259 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่ผู้ขับขี่ชาวอังกฤษ 91,000 คน
จนถึงปัจจุบัน โฟล์คสวาเกนต้องจ่ายค่าปรับและค่าเสียหายเกิน 32,000 ล้านยูโร (37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)


