ทองร่วงแรงกว่า $119 หลังสหรัฐ–จีนเจรจาคืบหน้า จับตาทิศทางค่าเงิน–ผลประชุมผู้นำญี่ปุ่น

28 ต.ค. 2568 - 03:56

  • สหรัฐ–จีนเจรจาคืบหน้า ลดความตึงเครียดทางการค้า

  • WGC ชี้ “ดีมานด์ทองจากธนาคารกลาง” เริ่มอ่อนแรง

  • ฮั่วเซ่งเฮงแนะกลยุทธ์ “ย่อซื้อ–ทยอยขาย” ระหว่างแนวรับ $3,970 – แนวต้าน $4,050

ทองร่วงแรงกว่า $119 หลังสหรัฐ–จีนเจรจาคืบหน้า จับตาทิศทางค่าเงิน–ผลประชุมผู้นำญี่ปุ่น

ฮั่วเซ่งเฮงชี้ราคาทองยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แนะนักลงทุนใช้กลยุทธ์ย่อซื้อ–ทยอยขายทำกำไร

วันที่ 28 ตุลาคม 2568 — ราคาทองคำโลกปรับตัวลดลงแรงกว่า 119.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ และกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ

ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) ล่าสุดอยู่ที่ราว 4,006.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดก่อนหน้า ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศเช้านี้เคลื่อนไหวที่ระดับราว 61,600 บาท/บาททองคำ ลดลงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ปัจจัยกดดันตลาดทองคำ

1. ความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ–จีน

นายสก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐฯ มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน ซึ่งอาจช่วยหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 100% ต่อสินค้าจีนได้ ขณะที่จีนส่งสัญญาณผ่อนคลาย โดยเลื่อนมาตรการควบคุมการส่งออก “แร่หายาก” ออกไปชั่วคราว

2. การเจรจาระดับผู้นำสหรัฐ–ญี่ปุ่น

ตลาดยังจับตาการพบปะระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ นางซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ซึ่งถือเป็นลูกศิษย์คนสำคัญของอดีตนายกรัฐมนตรี “ชินโซ อาเบะ” และมีแนวนโยบายใกล้เคียงกัน โดยนักลงทุนคาดว่าการพูดคุยครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น และอาจเปิดทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศมากขึ้น

3. ความเห็นจาก World Gold Council

นายจอห์น รีด (John Reade) นักกลยุทธ์อาวุโสจากสภาทองคำโลก (WGC) ระบุในการประชุมสมาคมตลาดทองคำลอนดอน (LBMA) ว่า ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มชะลอตัว และมองว่าระดับราคาที่เหมาะสมควรอยู่ราว 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับราคาปัจจุบันมาก โดยกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำออก 8.01 ตัน เหลือถือครองรวม 1,038.92 ตัน

แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุน

ฝ่ายวิเคราะห์บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินว่า ราคาทองคำโลกเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด (Sideway) โดยกราฟระยะสั้น 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่า ทองคำลงทดสอบแนวรับบริเวณ 3,970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ มีโอกาสดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,050 ดอลลาร์ แต่หากหลุดระดับ 3,940 ดอลลาร์ อาจมีแรงขายต่อเนื่องและปรับฐานลงแรง

สำหรับนักลงทุน แนะนำกลยุทธ์ “ย่อซื้อ–ขายทำกำไรตามกรอบ”

• ซื้อสะสมเมื่อราคาทองย่อตัวลงบริเวณ 3,970 ดอลลาร์/ออนซ์

• ขายทำกำไรเมื่อราคาฟื้นตัวขึ้นใกล้แนวต้าน 4,050 ดอลลาร์/ออนซ์

• หากราคาหลุด 3,940 ดอลลาร์/ออนซ์ ให้ “ขายตัดขาดทุน” เพื่อจำกัดความเสี่ยง

ส่วนทองคำในประเทศ ยังเคลื่อนไหวตามทิศทางทองโลก โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าช่วยชะลอการปรับขึ้นของราคาทอง แนะนำทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาลงมาแถว 61,500 บาท/บาททองคำ และขายทำกำไรที่บริเวณ 62,300 บาท ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ 61,200 บาท

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามคืนนี้

เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สหรัฐฯ จะเปิดเผย

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB Consumer Confidence) เดือนตุลาคม

• ดัชนีภาคการผลิตสาขาริชมอนด์ (Richmond Manufacturing Index) เดือนตุลาคม

ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นตัวชี้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น

สรุปมุมมอง

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด แม้ภาพรวมระยะกลางยังมีแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ระยะสั้นยังเผชิญแรงขายจากการเจรจาการค้าที่มีพัฒนาการเชิงบวก นักลงทุนจึงควรใช้กลยุทธ์เทรดดิ้งในกรอบและติดตามข่าวสารจากฝั่งสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์