CGS แนะถือทุกสินทรัพย์ รับความผันผวน จับตาเฟด-ซัมมิต-งบ Q3

29 ต.ค. 2568 - 05:11

  • เฟด QT & สภาพคล่อง - ตลาดจับตาว่าจะสิ้นสุดหรือไม่ มีผลต่อหุ้นและทองคำ

  • ซัมมิตสหรัฐ–จีน – ผลบวกอ่อน หุ้นโลกอาจขึ้นเล็กน้อย แต่ต้องระวังแรงขาย

  • กลยุทธ์ถือสินทรัพย์หลากหลาย – ลดความเสี่ยง บาลานซ์พอร์ต ระยะสั้นเหมาะกับนักลงทุนรายย่อย

CGS แนะถือทุกสินทรัพย์ รับความผันผวน จับตาเฟด-ซัมมิต-งบ Q3

“กรรณ์ หทัยศรัทธา” หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์สายงานวิจัย (ลูกค้ารายย่อย) บริษัทหลักทรัพย์ CGS International (ประเทศไทย) ประเมินทิศทางตลาดการเงินโลกช่วงโค้งสุดท้ายของปี ว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการพบปะกันระหว่าง 2 ผู้นำสหรัฐฯ–จีน ถือเป็นสองเหตุการณ์สำคัญที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีโอกาสเห็นแรงเทคโพรฟิต (Take Profit) จากสินทรัพย์เสี่ยง หลังราคาหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้า

 “QT” ตัวแปรสำคัญกว่าดอกเบี้ย

กรรณ์กล่าวว่า ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 25 เบสิสพอยต์ เป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่สิ่งที่ตลาดสนใจคือ กระบวนการ QT (Quantitative Tightening) ว่าจะสิ้นสุดหรือไม่ หาก QT สิ้นสุด จะช่วยให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้นและ ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ลดลง ซึ่งสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง

“ไฮไลท์ของเฟดรอบนี้ไม่ได้อยู่ที่อัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว แต่คือคำตอบเกี่ยวกับ QT และสภาพคล่องในตลาด ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของหุ้นและทองคำในระยะสั้น” กรรณ์กล่าว

ตลาดรับข่าวดีไปมากแล้ว เสี่ยง “ขายทำกำไร” ปลายสัปดาห์

ด้านบรรยากาศการลงทุน กรรณ์มองว่าในระยะสั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจมีการ “แรลลี่” ขึ้นต่ออีกเล็กน้อยหลังเฟดประชุม แต่ปลายสัปดาห์มีความเสี่ยงที่จะเห็นแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะหลังจากราคาทองคำร่วงลงแรงหลุดระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งสะท้อนการไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง

“สัญญาณเหล่านี้ชี้ว่าตลาดกำลังเปลี่ยนโหมดเป็น Risk-On แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานระยะสั้น เพราะตลาดตอบรับข่าวดีไปมากแล้ว ทั้งเฟดลดดอกเบี้ยและซัมมิตระหว่างทรัมป์กับสีจิ้นผิง”

กลยุทธ์ “ต้องมีทุกสินทรัพย์” รับความผันผวน

กรรณ์แนะนำว่า ในภาวะตลาดที่ผันผวนและมีปัจจัยกระทบจากหลายทิศทาง นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ “Invest Everywhere, Advance” หรือมีพอร์ตการลงทุนที่กระจายครบทุกสินทรัพย์ ทั้ง หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ทองคำ บิตคอยน์ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ

“เราต้องมีทุกสินทรัพย์ แต่ต้องมีกลยุทธ์ชัดเจน เช่น เวลาราคาลงให้ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะในภาพรวมสินทรัพย์เสี่ยงยังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากแรงหนุนของสภาพคล่องและการลดดอกเบี้ยทั่วโลก”

นอกจากนี้ยังแนะนำว่า กลยุทธ์ลักษณะนี้เหมาะกับทั้งนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่น และนักลงทุนรุ่นใหญ่ที่ต้องการบริหารความเสี่ยงให้พอร์ตสมดุล เพราะเมื่อสินทรัพย์ใดปรับตัวลง อีกสินทรัพย์หนึ่งมักจะปรับขึ้นมาชดเชยได้

หุ้นไทยต้องลุ้นงบ Q3 ยืนเหนือ 1,300 จุดได้หรือไม่

สำหรับตลาดหุ้นไทย กรรณ์ประเมินว่า หลังจากแรงหนุนจากงบกลุ่มธนาคารและเดลต้าในช่วงที่ผ่านมา ดัชนี SET ที่ดีดกลับเหนือระดับ 1,300 จุด จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากงบไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ จึงจะยืนได้

“แบงก์และเดลต้าออกมาดี แต่กลุ่มอื่นๆ เช่น โรงพยาบาล ค้าปลีก และพลังงานเริ่มน่ากังวล เพราะการแข่งขันสูงและกำไรอาจอ่อนตัวลง”

กรณ์เตือนว่า หากผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาด อาจเห็นแรงขายในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอีกระลอก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ปรับขึ้นแรงก่อนหน้า

หุ้นสหรัฐฯ ยังไม่ “บับเบิล” แม้ราคาแพง

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ  กรรณ์มองว่า แม้ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะปรับขึ้นแรง และมีความกังวลเรื่อง “ฟองสบู่” (Bubble) แต่ยังแตกต่างจากยุคดอทคอม เนื่องจากครั้งนี้มี กำไรจริงรองรับ โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี AI และเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีคำสั่งซื้อแข็งแกร่งต่อเนื่อง

“รอบนี้ไม่เหมือนดอทคอม เพราะ Earnings มาจริง การใช้ AI ขยายจากแค่โมเดลปัญญาประดิษฐ์ ไปถึงระดับ AGI (Artificial General Intelligence) ที่ทำงานได้เหมือนมนุษย์มากขึ้น ซึ่งจะผลักดันการลงทุนต่อเนื่อง”

แนะนำให้นักลงทุนรายย่อยลงทุนผ่าน ดัชนี S&P500 หรือ Nasdaq ETF เพื่อลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้นรายตัวที่ราคาอาจแพงเกินไป

ทองคำรอจังหวะยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์อีกครั้ง

ด้านราคาทองคำที่ร่วงลงแรงจนหลุดระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กรรณ์ประเมินว่า หากหลังเหตุการณ์ใหญ่ทั้งการประชุมเฟดและซัมมิตผู้นำโลกผ่านพ้นไป แล้วทองคำสามารถกลับไปยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ จะเป็นสัญญาณกลับตัวเชิงบวกอีกครั้ง

“หากทองคำยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง แสดงว่าแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยจบลง นักลงทุนระยะยาวสามารถทยอยสะสมได้ โดยใช้แนวทาง DCA แบบ ‘Volume Average’ คือราคายิ่งลง ยิ่งเพิ่มน้ำหนักซื้อ”

สรุปมุมมอง

·       เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตลาดรับข่าวไปแล้ว แต่ต้องจับตา “QT” จะจบหรือไม่

·       สินทรัพย์เสี่ยงยังมีแรงหนุนจากสภาพคล่อง แต่ระวังแรงขายช่วงปลายสัปดาห์

·       หุ้นไทยต้องลุ้นงบ Q3 หากอ่อนแอมีโอกาสปรับฐาน

·       หุ้นสหรัฐฯ ยังน่าสนใจ กลุ่มเทคและ AI ยังเดินหน้า

·       ทองคำยังควรถือบางส่วน รอจังหวะยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์

ยามที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุคดอกเบี้ยสูงสู่ยุคลดดอกเบี้ย นักลงทุนควรมีพอร์ตที่สมดุล ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ เพื่อพร้อมรับทุกความผันผวน

กรรณ์ หทัยศรัทธา CGS International (ประเทศไทย)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์