Visa วุ่น-ขู่ย้ายเจ้าภาพ ทรัมป์ทำป่วนแผนจัด “ฟุตบอลโลก 2026”

4 ธ.ค. 2568 - 04:19

  • ทรัมป์ประกาศหยุดการอพยพจากประเทศโลกที่สามอย่างถาวร หลังเหตุกราดยิงใกล้ทำเนียบขาว

  • 19 ประเทศรวมทั้งเฮติและอิหร่านที่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกถูกจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯ

  • ทรัมป์ขู่ย้ายสนามแข่งขันออกจากเมืองที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครต

Visa วุ่น-ขู่ย้ายเจ้าภาพ ทรัมป์ทำป่วนแผนจัด “ฟุตบอลโลก 2026”


AFP- การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่เคยเป็นงานง่าย แต่สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อเจ้าภาพหลักอย่างสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตลอดช่วงปีที่ผ่านมาได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้การเตรียมงาน ตั้งแต่ข้อจำกัดด้านวีซ่า การขู่ย้ายสนามแข่ง ไปจนถึงความตึงเครียดกับเพื่อนบ้านร่วมเจ้าภาพอย่างแคนาดาและเม็กซิโก

อีกเพียง 6 เดือนก่อนฟุตบอลโลก 2026 จะเปิดฉากในสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา โดยสหรัฐฯ รับผิดชอบมากที่สุดถึง 82 จาก 104 แมตช์ แต่การดำเนินงานกลับถูกกดดันจากนโยบายด้านความมั่นคงและการย้ายถิ่นของรัฐบาลทรัมป์

คุมเข้มวีซ่า–ชาติเข้าร่วมโดนผลกระทบ

ภายใต้นโยบายต่อต้านการอพยพซึ่งเป็นแกนหลักของวาระที่สอง ทรัมป์ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มหลังเหตุชาวอัฟกันต้องสงสัยยิงทหาร National Guard ใกล้ทำเนียบขาว ส่งผลให้รัฐบาลประกาศ “หยุดรับผู้อพยพจากประเทศโลกที่สามทั้งหมดเป็นการถาวร”

ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ถือสัญชาติจาก 19 ประเทศ รวมถึงเฮติและอิหร่าน ซึ่งเป็นชาติร่วมแข่งฟุตบอลโลก ถูกจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ขณะที่การพิจารณาขอลี้ภัยถูกระงับไม่มีกำหนด

อิหร่านเคยขู่คว่ำบาตรพิธีจับสลากแบ่งสายที่กรุงวอชิงตัน หลังเจ้าหน้าที่บางรายไม่ได้รับวีซ่า ก่อนจะถอนคำขู่ในภายหลัง

แม้รัฐบาลจะประกาศระบบเร่งรัดการนัดหมายขอวีซ่าสำหรับผู้ถือบัตรเข้าชมการแข่งขัน แต่รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ย้ำว่า “ตั๋วเข้าชมไม่ใช่วีซ่า ทุกคนยังต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามปกติ”

ขู่ย้ายสนาม–เมืองเจ้าภาพใหญ่เสี่ยงถูกกระทบ

ทรัมป์ยังสร้างแรงกดดันเมื่อ ขู่ย้ายการแข่งขันจากเมืองที่บริหารโดยเดโมแครต โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย เช่น บอสตัน, ซานฟรานซิสโก, ซีแอตเทิล และลอสแอนเจลิส ซึ่งรวมกันรองรับกว่า 20 แมตช์

การเปลี่ยนเมืองเจ้าภาพในนาทีสุดท้ายจะเป็นหายนะด้านการจัดการ ทั้งต่อแฟนบอลที่จองตั๋วและโรงแรมแล้ว และต่อ ฟีฟ่า ที่มีข้อจำกัดตามสัญญา ซึ่งยกเลิกได้เฉพาะกรณีภัยพิบัติหรือเหตุรุนแรงระดับร้ายแรงเท่านั้น

พร้อมกันนี้ ทรัมป์ได้ส่งกำลัง National Guard เข้าหลายเมืองใหญ่ที่บริหารโดยเดโมแครตตลอดปีที่ผ่านมา รวมถึงลอสแอนเจลิส ซึ่งกำลังเผชิญปฏิบัติการไล่กวาดล้างผู้อพยพผิดกฎหมาย ทำให้บรรยากาศโดยรวมตึงเครียดต่อเนื่องจนถึงช่วงแข่งขันจริง

ตึงเครียดเพื่อนบ้าน–ผู้ร่วมเจ้าภาพไม่รอดแรงปะทะ

แม้แคนาดาและเม็กซิโกจะเป็นพันธมิตรและเจ้าภาพร่วม แต่กลับไม่ได้รับข้อยกเว้นจากนโยบายแข็งกร้าวของทรัมป์ รัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทั้งสองประเทศ และถึงขั้นขู่ผนวกแคนาดา ขณะที่ในกรณีเม็กซิโก ทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ของ “ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ” ในการต่อต้านขบวนการค้ายาเสพติด

ความตึงเครียดดังกล่าวยิ่งเพิ่มความท้าทายให้ฟุตบอลโลกครั้งประวัติศาสตร์ที่มี เจ้าภาพร่วม 3 ประเทศ และมีทีมเข้าร่วมมากที่สุดถึง 48 ทีม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์