รัสเซียและยูเครนประกาศพร้อมเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ เพื่อยุติสงครามที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปี หลังทูตอเมริกันเดินทางไปมอสโกแต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
ทูตพิเศษสหรัฐฯ สตีฟ วิตคอฟฟ์ และ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของ โดนัลด์ ทรัมป์ เสร็จสิ้นการเจรจากับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ปูติน ในช่วงต้นวันพุธ โดยทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประกาศความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมใด ๆ เครมลินระบุว่าไม่สามารถหา "การประนีประนอม" ในประเด็นสำคัญเรื่องดินแดนได้
การเจรจามอสโกไม่คืบหน้า แต่รัสเซียยืนยันพร้อมพูดคุยต่อ
แม้การเจรจาครั้งล่าสุดจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่โฆษกเครมลิน ดมิตรี เปสคอฟ ย้ำว่ารัสเซียยังคงพร้อมเจรจา "เรายังพร้อมพบปะกันหลายครั้งตามที่จำเป็น เพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพ" เปสคอฟกล่าว
ทูตอเมริกันนำแผนฉบับปรับปรุงใหม่ของสหรัฐฯ มาเสนอ เพื่อยุติสงครามที่นองเลือดที่สุดในยุโรปรอบ 80 ปี หลังจากวาชิงตันเจรจากับเคียฟแล้ว เครมลินยืนยันว่าไม่ถูกต้องที่จะกล่าวว่าปูตินปฏิเสธแผนดังกล่าวทั้งหมด และรัสเซียยังคงมุ่งมั่นต่อการทูต
ยูเครนส่งทีมผู้แทนไปพบชาติ NATO และทูตของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประกาศส่งหัวหน้าคณะเจรจา รุสเต็ม อูเมอรอฟ และผู้บัญชาการทหารบก อันดรีย์ กนาตอฟ ไปบรัสเซลส์ ที่รัฐมนตรีต่างประเทศ NATO กำลังประชุมกัน
ทีมยูเครนจะเดินทางต่อไปสหรัฐฯ เพื่อพบทูตของทรัมป์ด้วย "ตัวแทนยูเครนจะแจ้งข้อมูลให้เพื่อนร่วมงานในยุโรปเกี่ยวกับสิ่งที่ทราบหลังจากการติดต่อของฝ่ายอเมริกันในมอสโกเมื่อวานนี้" เซเลนสกีระบุในโซเชียลมีเดีย
สถานการณ์ตึงเครียดเพิ่มขึ้นท่ามกลางสู้รบภาคพื้นดิน
ปูตินกล่าวแถลงการณ์ที่เข้มงวดเป็นพิเศษก่อนพบทูตอเมริกัน "เราไม่ได้วางแผนจะทำสงครามกับยุโรป แต่หากยุโรปต้องการและเริ่มต้น เราพร้อมตอนนี้" ปูตินกล่าว
มอสโกรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากกองทัพรัสเซียเคลื่อนตัวเข้าสู่ยูเครนได้เร็วขึ้น ต้นสัปดาห์นี้รัสเซียอ้างว่าควบคุมเมือง โปครอฟสก์ ทางตะวันออกของยูเครนได้แล้ว ขณะที่ยูเครนระบุว่าการต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ในเมืองที่มีประชากร 60,000 คนก่อนการโจมตีปี 2022
รัสเซียยึดครองพื้นที่กว้างใหญ่ทางตะวันออกและใต้ของยูเครน โดยปูตินยืนยันว่าเคียฟต้องยอมมอบสี่ภูมิภาคที่มอสโกอ้างว่าเป็นของตน เพื่อให้ข้อตกลงสันติภาพเป็นไปได้





