ยังคงต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์ฝนตกหนักในภาคใต้ และสภาพอากาศแปรปรวนในประเทศไทยตอนบน ล่าสุดวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568 สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 14 (387/2568) มีผลกระทบจนถึงวันที่ 12-16 ธันวาคม 2568

เช็กรายชื่อ 13 จังหวัดภาคใต้ติดอันดับเสี่ยงฝนตกหนัก
- ช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค. 68
เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้เกือบทุกจังหวัดในภาคใต้มี “ฝนตกหนักมาก” โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
และมีฝนเพิ่มขึ้น หรือมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
- ช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. 68
ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น
- เตือนคลื่นลมแรง
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน จะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่า และพื้นที่ลุ่ม ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือ ด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

ประเทศไทยตอนบน “อากาศแปรปรวน”
สำหรับประเทศไทยตอนบนจะมี “อากาศแปรปรวน” มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่งในช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค. 68 เนื่องจากมีลมตะวันออกพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมประเทศไทย ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

จับตาพายุลูกใหม่ก่อตัว
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง



