ฤดูหนาวไทย 5 ปีย้อนหลัง ปรากฏการณ์โลกร้อนเริ่มป่วนฤดูกาลแค่ไหน?

22 ต.ค. 2568 - 14:42

  • วิเคราะห์ฤดูหนาวไทย 5 ปีย้อนหลัง “หนาวช้า-หนาวน้อย” จริงไหม เพราะอะไร และมีโอกาสแค่ไหนที่หน้าหนาวประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม

  • เข้าใจอิทธิพลของลมมรสุม ปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว

  • รายงานโดย Climate Central ชี้โลกอุ่นขึ้นและฤดูหนาวกำลังหายไป พบ 44 ประเทศมีฤดูหนาวน้อยลง

ฤดูหนาวไทย 5 ปีย้อนหลัง ปรากฏการณ์โลกร้อนเริ่มป่วนฤดูกาลแค่ไหน?

ลมหนาวต้นฤดูเริ่มพัดผ่านกรุงเทพฯ เบาๆ ในยามเช้า ผู้คนเริ่มค้นหาเสื้อแขนยาวตัวเดิมที่เก็บไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วออกมารอใส่ในวันอากาศเย็น นี่เป็นภาพจำของช่วงเวลาส่งท้ายปลายปี ทว่า ไม่ใช่ทุกปีที่จะมีลมเย็นมาเคาะประตูบ้านตรงเวลา

หากย้อนไปสมัยก่อน ฤดูหนาวในไทยเคยมาไวกว่านี้ อากาศเย็นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ไม่ใช่ความหนาวเพียงไม่กี่วันแล้วหายวับ อย่างที่หลายคนเริ่มสังเกต จึงไม่น่าแปลกที่คำถามอย่าง “ทำไมปีนี้หนาวช้า?” “หนาวกี่โมง?” หรือ “ทำไมอากาศหน้าหนาวไม่เย็นฉ่ำเหมือนตอนเรายังเป็นเด็ก” กลายเป็นบทสนทนาบนโลกออนไลน์และวงสนทนาในชีวิตจริง

ฤดูหนาว 2568: หนาวช้ากว่าปกติ แต่ยังมีให้หนาว

ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ฤดูหนาวปี 2568 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 และสิ้นสุดช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2569 โดยถือว่าช้ากว่าค่าเฉลี่ยปกติราว 2 สัปดาห์ จากการเปลี่ยนผ่านของลมมรสุมที่เป็นตัวกำหนดฤดูกาลของไทย

อิทธิพลของลมมรสุม

ปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝน เข้าสู่ฤดูหนาว คืออิทธิพลของลมมรสุม

  •  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้

ในช่วงฤดูฝน มรสุมที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทย คือมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดปกคลุมประเทศไทยในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นลมที่พัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย มีคุณสมบัติร้อนและชื้น จึงทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนชุกตลอดช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะพื้นที่ด้านรับลมมรสุม อย่างทางภาคใต้ฝั่งอันดามัน และภาคตะวันออก ที่จะมีฝนชุกกว่าพื้นที่อื่นๆ

  • มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

พอถึงช่วงปลายฤดูฝน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะค่อยๆ อ่อนกำลังลง  ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแทน โดยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มพัดปกคลุมประเทศไทยประมาณกลางเดือนตุลาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นลมที่พัดมาจากไซบีเรีย ประเทศจีน มีคุณสมบัติเย็นและแห้ง เมื่อลมพัดลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง

ขณะที่บางส่วนพัดลงทะเลจีนใต้และอ่าวไทยจะหอบเอาความชื้นมาด้วย ส่งผลให้ในช่วงปลายปี ภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป มีฝนตกชุกหนาแน่น

ข่าวดีคือปีนี้ประเทศไทยยังหนาว แม้ฤดูหนาวปีนี้จึงมาช้ากว่าปกติเล็กน้อย โดยเฉพาะในภาคเหนือและอีสานที่เริ่มเย็นก่อน และขยายลงสู่ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ในช่วงกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป คาดว่าอุณหภูมิต่ำสุดของกรุงเทพฯ จะอยู่ที่ราว 18–20 องศาเซลเซียส ขณะที่พื้นที่ยอดดอยในภาคเหนืออาจลดลงถึง 7–8 องศา และมีโอกาสเกิดน้ำค้างแข็งได้ในบางจุด

ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวประเทศไทย 5 ปีย้อนหลัง ระหว่างปี 2564–2568
ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวประเทศไทย 5 ปีย้อนหลัง ระหว่างปี 2564–2568

หนาวกี่โมง? หนาวนานแค่ไหน?

หากย้อนดูสถิติย้อนหลังในช่วง 5 ปี ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทยจากกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงปี พ.ศ. 2564–2568 จะพบว่า

ปี 2564

  • วันประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว 2 พฤศจิกายน 2564
  • สิ้นสุด 27 กุมภาพันธ์ 2565
  • ภาพรวม เริ่มช้ากว่าปกติเล็กน้อย และในช่วงแรกของฤดู อากาศในประเทศไทยตอนบนยังคงแปรปรวน โดยมีฝนตกเป็นบางช่วง อุณหภูมิต่ำสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20–21 องศาเซลเซียส

ปี 2565 

  • วันประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว 29 ตุลาคม 2565
  • สิ้นสุด 2 มีนาคม 2566
  • ภาพรวม อากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา โดยช่วงที่หนาวเย็นที่สุดคือเดือนธันวาคม 2565 ถึงมกราคม 2566 

ปี 2566 

  • วันประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว 14 พฤศจิกายน 2566
  • สิ้นสุด 22 กุมภาพันธ์ 2567
  • ภาพรวม เริ่มฤดูหนาวช้ากว่าปกติ 1 เดือน โดยอุณหภูมิจะหนาวเย็นน้อยกว่าปีก่อน 

ปี 2567 

  • วันประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว 3 พฤศจิกายน 2567
  • สิ้นสุด 21 กุมภาพันธ์ 2568
  • ภาพรวม อุณหภูมิต่ำสุดอาจลดลงถึง 6–8 องศาเซลเซียสในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ

ปี 2568 

  • วันประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว 23 ตุลาคม 2568 (ซึ่งช้ากว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 1-2 สัปดาห์)
  • สิ้นสุด ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2569
  • ภาพรวม อากาศจะเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ช่วงที่หนาวที่สุดจะอยู่ระหว่างกลางเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2569 โดยอุณหภูมิต่ำสุดในกรุงเทพฯ อาจอยู่ที่ประมาณ 18–20 องศาเซลเซียส
sustainability-thai-winter-5y-climate-impact-SPACEBAR-Photo01.jpg

ฤดูหนาวหายไปหรือโลกกำลังเปลี่ยน?

ความจริงแล้ว ฤดูหนาวไม่ได้หายไป เพียงแต่กำลังเปลี่ยนรูปแบบไปตามทิศทางของโลกที่ร้อนขึ้น ภาวะโลกร้อน (Global Warming) และ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 0.2–0.3 องศา ซึ่งส่งผลให้ฤดูกาลที่เคยคาดเดาได้ กลายเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

ฤดูหนาวของเขตร้อนชื้นอย่างไทย ขึ้นอยู่กับระบบลมมรสุมและการกระจายตัวของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ เมื่อโลกอุ่นขึ้น แหล่งต้นกำเนิดของลมเย็น เช่น ไซบีเรีย ก็จะเย็นน้อยลง ทำให้ลมที่พัดลงมายังไทยมีอิทธิพลลดลง นอกจากนี้ ยังมีปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” และ “ลานีญา” ซึ่งเป็นความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่สามารถส่งผลต่อความแปรปรวนของอุณหภูมิในระดับภูมิภาค

sustainability-thai-winter-5y-climate-impact-SPACEBAR-Photo02.jpg

44 ประเทศมีวันอากาศหนาวลดลงเพราะโลกร้อน

รายงานล่าสุด “Lost Winter 2024” โดย Climate Central ชี้ว่าโลกอุ่นขึ้นและฤดูหนาวกำลังหายไป โดยเผยให้เห็นภาพชัดเจนของผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่กำลังเปลี่ยนแปลงฤดูกาลอย่างเงียบๆ ทั่วซีกโลกเหนือ โดยพบว่า กว่า 44 ประเทศมีวันในฤดูหนาวที่อุณหภูมิไม่ลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 สัปดาห์ต่อปี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา (2014–2023) ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซมีเทน

ไม่เพียงแต่ประเทศเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เมืองใหญ่กว่า 393 เมือง จาก 901 เมืองทั่วโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่ง พบว่ามีฤดูหนาวกำลังสั้ที่นลงและอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ขณะที่ในสหรัฐฯ เมืองกว่า 60% และ 28 รัฐต้องเผชิญกับ “ฤดูหนาวที่หายไป” ในแต่ละปี

ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของอากาศที่อุ่นขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เกษตรกรรม และทรัพยากรน้ำในระยะยาว การที่โลกเริ่มมีฤดูหนาวสั้นลง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในวงจรธรรมชาติที่อาจส่งผลลุกลามต่อวิถีชีวิตมนุษย์ทั่วโลก

sustainability-thai-winter-5y-climate-impact-SPACEBAR-Photo03.jpg

ผลกระทบต่อชีวิตและเศรษฐกิจไทย

การเปลี่ยนแปลงฤดูกาลไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเสื้อกันหนาว หรือการวางแผนท่องเที่ยวเท่านั้น แต่กระทบต่อภาคส่วนต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญ

ในภาคเกษตรกรรม พืชที่ต้องการอากาศหนาว เช่น สตรอว์เบอร์รี กะหล่ำปลี หรือชา อาจเผชิญฤดูปลูกที่สั้นลง ผลผลิตลดลง หรือเกิดความเสียหายจากอากาศแปรปรวน ขณะเดียวกัน สุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้มีโรคประจำตัว จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เสี่ยงโรคระบบทางเดินหายใจสูงขึ้น

สำหรับภาคการท่องเที่ยว ฤดูหนาวยังคงเป็นช่วงพีคของหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ หากฤดูหนาวมาไม่ตรงเวลา หรือมาแค่ช่วงสั้นๆ ย่อมกระทบต่อการวางแผนกิจกรรมและรายได้ของชุมชนท่องเที่ยวโดยตรง

ปรับตัวอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนไป

การรับมือกับฤดูกาลที่ไม่แน่นอนเริ่มเป็นเรื่องที่ทุกคนควรตระหนัก แนวคิด “การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ” หรือ Climate Adaptation ควรเริ่มตั้งแต่ในระดับครัวเรือน เช่น ติดตามพยากรณ์อากาศใกล้ชิด ปรับเสื้อผ้า อาหาร และกิจกรรมให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ในระดับนโยบาย รัฐควรสนับสนุนการวิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์พืชที่ทนต่ออุณหภูมิสูง เสริมสร้างระบบเตือนภัย และวางแผนการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยืดหยุ่น รองรับทั้งภาวะแห้งแล้งและฝนตกผิดฤดู

ฤดูหนาวกำลังเปลี่ยนไป: ธรรมชาติไม่รอให้เราปรับตัวทีหลัง

การที่ฤดูหนาวมาไม่ตรงเวลา อาจเป็นเรื่องชวนให้หงุดหงิดใจสำหรับหลายคนที่เฝ้ารออากาศเย็น แต่ในมุมที่ลึกกว่านั้น นี่คือสัญญาณจากธรรมชาติว่าโลกไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

จากฤดูที่เคยแน่นอน กลายเป็นฤดูที่ยากจะคาดเดา ภูเขาที่เคยขาวโพลนจากน้ำค้างแข็งในช่วงธันวาคม กลับมีหมอกฝนคลุมทับ เสื้อกันหนาวที่เก็บพับยังคงไม่ได้หยิบมาใช้ คำถามจึงไม่ใช่แค่ว่า “เมื่อไรจะหนาว?” แต่ควรเปลี่ยนเป็นว่า “เราจะอยู่ร่วมกับฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงอย่างไร?” เพราะในโลกที่อุณหภูมิสูงขึ้น ฤดูต่างๆ จะหมุนเวียนมา...แต่อาจไม่ได้มาในรูปแบบเดิมอีกต่อไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์