ถอด 9 บทเรียนใหญ่จากรายงานธนาคารโลก ชี้ทิศทางไทยปรับตัวสู้โลกร้อน

7 ต.ค. 2568 - 12:35

  • วิเคราะห์ 9 บทเรียนใหญ่จากรายงาน Thailand Country Climate and Development Report ของธนาคารโลก

  • หากประเทศไทยไม่เร่งปรับตัว Climate Change อาจทำ GDP หาย 14% ภายในปี 2050

  • ไทยมีศักยภาพก้าวขึ้นผู้นำ Green Manufacturing และยานยนต์ไฟฟ้า เพิ่มส่งออกได้อีก 2–3% ของ GDP

ถอด 9 บทเรียนใหญ่จากรายงานธนาคารโลก ชี้ทิศทางไทยปรับตัวสู้โลกร้อน

ความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กำลังเล่นงานเศรษฐกิจโลก ประเทศไทยในฐานะเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของอาเซียน กำลังอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญระหว่าง “การพัฒนาเชิงปริมาณ” กับ “การเติบโตเชิงคุณภาพ” ที่ต้องคำนึงถึงความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจและสังคมภายใต้ภาวะโลกรวน

รายงาน Thailand Country Climate and Development Report (CCDR) จากธนาคารโลก ชี้ชัดว่าประเทศไทยไม่อาจเดินบนเส้นทางเดิมได้อีกต่อไป หากต้องการก้าวสู่การเป็นประเทศรายได้สูงอย่างยั่งยืน โดยวิเคราะห์อย่างเป็นระบบถึงความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ และการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมชี้ให้เห็นว่าทั้งความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง และโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศไทยในสองทศวรรษข้างหน้า

ถอด 9 บทเรียนสำคัญจากรายงานธนาคารโลก

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V01.jpg

1. การพัฒนาและการรับมือ Climate ต้องเดินไปพร้อมกัน

รายงานธนาคารโลก ระบุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่สามารถแยกขาดจากการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศได้อีกต่อไป พร้อมเตือนว่าการมุ่งขยายการผลิตโดยไม่ปรับตัวต่อภัยพิบัติ จะนำมาซึ่งต้นทุนทางเศรษฐกิจมหาศาล ทั้งจากการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐาน ความเสียหายต่อภาคเกษตร และผลกระทบต่อภาคแรงงาน โดยเสนอให้รัฐบาลบูรณาการนโยบาย Climate เข้ากับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตได้โดยไม่ทำลายฐานทรัพยากรของตนเอง

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V02.jpg

2. ไม่ปรับตัว GDP อาจหาย 7–14% ภายในปี 2050

ตัวเลขนี้คือสัญญาณเตือนที่ไม่อาจละเลย รายงานประมาณการณ์ว่าหากไทยยังดำเนินนโยบายเช่นเดิม ความเสียหายจากภัยธรรมชาติและความแปรปรวนของสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น จะทำให้ GDP หดตัวลงระหว่างร้อยละ 7–14 ภายในปี 2050 โดยเฉพาะผลกระทบจากน้ำท่วม ภัยแล้ง และคลื่นความร้อนที่เกิดต่อเนื่อง การสูญเสียนี้จะกระทบทั้งห่วงโซ่การผลิต แรงงาน และการลงทุนในระยะยาว

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V03.jpg

3. ต้องเกิดการร่วมลงทุน เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และการกัดเซาะชายฝั่ง

รายงานระบุว่า ความเสี่ยงทางกายภาพเป็นโจทย์เร่งด่วนที่ต้องการการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน โดยเฉพาะโครงการป้องกัน “น้ำท่วม” ในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล การบริหารจัดการน้ำในภาคเกษตร และการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยว และความมั่นคงทางอาหาร การจัดการเชิงพื้นที่และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวจึงเป็นหัวใจของการปรับตัวในระยะยาว

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V04.jpg

4. ความร้อนจัด ภัยเงียบต่อแรงงานและสุขภาพ

อุณหภูมิที่สูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตเมือง กำลังสร้างผลกระทบเชิงลึกต่อแรงงานกลางแจ้ง และแรงงานภาคบริการ ธนาคารโลกชี้ว่าผลผลิตแรงงานอาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่ทศวรรษ หากไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจน เช่น การออกแบบเมืองเพื่อลดความร้อน การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และระบบเตือนภัยสุขภาพสำหรับกลุ่มเสี่ยง การจัดการ “ภัยร้อน” จึงไม่ใช่เพียงเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่คือความมั่นคงทางเศรษฐกิจและแรงงาน

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V05.jpg

5. เสริมแกร่งกลุ่มเปราะบาง

เมื่อภัยพิบัติรุนแรงขึ้น กลุ่มเปราะบางจะเป็นผู้รับผลกระทบก่อนเสมอ รายงานเตือนว่าระบบคุ้มครองทางสังคมของไทยยังไม่พร้อมรองรับผลกระทบในระดับนี้ จำเป็นต้องยกระดับกลไกช่วยเหลือให้ทันสมัย เข้าถึงได้รวดเร็ว และสามารถเชื่อมโยงกับระบบเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อป้องกันการถดถอยของคนจนหลังวิกฤต และลดการขยายตัวของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V06.jpg

6. Net Zero 2065 ทางเลือกเศรษฐกิจที่คุ้มค่า

เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2065 เป็นมากกว่าคำมั่นด้านสิ่งแวดล้อม แต่คือการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเศรษฐกิจและสุขภาพของประเทศ รายงานระบุว่าการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลจะช่วยลดต้นทุนพลังงานในอนาคต เสริมความมั่นคงทางพลังงาน และเปิดทางสู่อุตสาหกรรมสีเขียวที่มีมูลค่าเพิ่มสูง แต่ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการเปลี่ยนโครงสร้างอย่างลึกในภาคพลังงาน ขนส่ง เกษตร และอุตสาหกรรมหนัก

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V07.jpg

7. ราคาคาร์บอน กุญแจสำคัญแต่ไม่เพียงพอ

การกำหนดราคาคาร์บอน (Carbon Pricing) ผ่านภาษีหรือระบบซื้อขายคาร์บอน (ETS) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่รายงานย้ำว่าเครื่องมือนี้ต้องดำเนินควบคู่กับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคพลังงานและเกษตร เพื่อป้องกันการโยนต้นทุนไปยังผู้บริโภคโดยไม่เกิดการลดคาร์บอนจริง

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V08.jpg

8. ไทยมีศักยภาพสูงใน Green Manufacturing และยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

รายงานชี้ว่าไทยอยู่ในจุดที่สามารถใช้ “การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว” เป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ และยานยนต์ไฟฟ้าที่ไทยมีห่วงโซ่อุปทานพร้อมอยู่แล้ว หากดำเนินนโยบายเชิงรุก ไทยสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ราว 2–3% ของ GDP พร้อมสร้างงานสีเขียวและโอกาสทางนวัตกรรมใหม่ ๆ

sustainability-9-lessons-world-bank-thailand-climate-adaptation-SPACEBAR-Photo V09.jpg

9. เงินลงทุน Climate มหาศาล...แต่ทำได้

การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำต้องใช้เงินลงทุนระดับมหาศาล แต่รายงานธนาคารโลกระบุว่าเป็นไปได้ หากไทยปรับระบบการเงินและภาษีให้สนับสนุนการลงทุนสีเขียว ตั้งแต่การจัดเก็บภาษีคาร์บอน การปฏิรูปรายได้ของรัฐ ไปจนถึงการดึงทุนเอกชนผ่านพันธบัตรสีเขียว (Green Bonds) และความร่วมมือภาครัฐ–เอกชน (PPP) การระดมทุนเชิงระบบคือก้าวสำคัญที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านไม่ใช่เพียงแผนบนกระดาษ

เส้นทางใหม่ของการพัฒนาไทย

รายงาน Thailand CCDR ของธนาคารโลก คือการเตือนเชิงนโยบายที่หนักแน่นที่สุดในรอบทศวรรษ ว่าการพัฒนาโดยไม่คำนึงถึงสภาพภูมิอากาศคือ “ทางตันของเศรษฐกิจไทย” หากประเทศยังคงใช้แนวทางแบบเดิม ต้นทุนจากภัยพิบัติและการสูญเสียโอกาสทางการค้าจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการปรับตัวหลายเท่า

ในทางกลับกัน การเลือกเดินบนเส้นทางสีเขียวที่บูรณาการเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน ไม่เพียงช่วยให้ประเทศลดความเสี่ยงจากโลกรวน แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่เข้มแข็ง เป็นธรรม และแข่งขันได้ในระบบเศรษฐกิจโลกที่กำลังหมุนไปสู่ความยั่งยืนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์