แก้รัฐธรรมนูญ เสี่ยงถูกคว่ำวาระ 3

11 ธ.ค. 2568 - 04:11

  • ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 2 ไปเรียบร้อยแล้ว

  • เป็นการเดินทางของการแก้รัฐธรรมนูญที่ไกลสุดแล้ว

  • จากนี้ไปต้องตามไปลุ้นต่อว่าจะก้าวข้ามวาระ3 ได้หรือไม่

แก้รัฐธรรมนูญ เสี่ยงถูกคว่ำวาระ 3

การที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะผ่านหรือถูกตีตกในวาระ 3 คงไม่ใช่เพราะการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยของ สว.บางราย ที่นำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไป ‘ปน’ กับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภัยสงคราม หรือการสูญเสียเงินนับหมื่นล้านบาท ไปเพื่อการนี้ไม่

แต่มาจากความเห็นต่างในเนื้อหาที่ผ่านการเห็นชอบของกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ ‘ไม่เห็นด้วย’ กับการแก้ไขดังกล่าว และต้องการให้มีกลไกจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่ยึดโยงกับประชาชน

โดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ซึ่งเป็นเจ้าของร่างหลักในการพิจารณา และมีการแก้ไขเปลี่ยนไปจากร่างเดิม ยังเรียกร้องให้ ‘กลับไปใช้กลไกเดิม’ ที่เสนอให้มีกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และสภาที่ปรึกษาจากการเลือกของประชาชน

อันเป็นท่าทีของพรรคส้ม ที่แบ่งบทกันเล่นกับผู้ที่อยู่ในกรรมาธิการ

ด้านพรรคเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ยังยืนกรานให้ฟื้น สสร.และกมธ.ยกร่าง ตามร่างของเพื่อไทยที่เสนอไว้ แม้จะไม่ผ่านการรับหลักการก็ตาม ทั้งยังปรามาสสูตร 20 หยิบ 1 สุดท้ายจะล้มเหลว ไม่มีคนมาสมัคร เพราะไม่อยากเสียเวลา

“ที่กำหนดให้มาจากสูตร 20 หยิบ 1 เชื่อว่าคนจะมีส่วนร่วมน้อย ควรกำหนดสัดส่วนให้มีผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ดี มีองค์ประกอบที่กลัว คือ เสียงข้างมากรัฐสภากำหนดได้ไปหมด กำกับโดยเสียงข้างมากของรัฐสภาที่รวมตัวกัน กำหนดทิศทางของรัฐธรรมนูญได้ทั้งหมด”

ขณะที่ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา นันทนา นันทวโรภาส เรียกร้องให้ทบทวนมติกรรมาธิการเสียงข้างมากและให้มี สสร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รวมทั้ง ไม่เห็นด้วยกับสูตร 20 หยิบ 1 เพราะเป็นการเอื้อให้กับพวกพ้อง

“ยังไม่เข็ดอีกหรือที่เลือกกันเองแบบสว. ที่ได้มาโดยประชาชนไม่ได้เลือก และเมื่อเข้ามาเป็นแล้ว ไม่เคยทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญมุ่งเพื่อรักษาอำนาจของพวกพ้อง ทั้งเสนอให้สว.อยู่ครบวาระ 5 ปี มีอำนาจแก้รัฐธรรมนูญได้ไปเป็น สส.เป็นรัฐมนตรีหลังพ้น สว. หากได้คนร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มาจากประชาชน เขาจะคิดถึงประโยชน์ของตนเองมากกว่าประโยชน์ประชาชน และรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศจะยอมให้กลุ่มฮั้ว ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง หากเป็นพวกที่เชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ อาจได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับสีเทาได้”

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ ยอมรับเนื้อหาแม้จะมีขุดแข็งในบางเรื่อง ที่กำหนดให้ต้องมีการบรรจุหมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย แต่ไม่มีข้อไหนที่บังคับให้ต้องมีเนื้อหาสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่ระบุไว้ในมาตรา 160(4) (5) ไปบัญญัติไว้ด้วย

“การไม่บังคับให้มีหลักการเนื้อหาดังกล่าว ย่อมหมายความว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะระบุเรื่องนี้ไว้หรือไม่ก็ได้ ถ้าไม่มีการระบุเรื่องนี้ไว้หรือทำสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงหายวับไปกับตา ก็แปลว่ารัฐธรรมนูญใหม่ก็ไม่ได้มีหลักประกันในประเด็นนี้ว่าเท่าเทียมหรือดีไปกว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อันอาจจะส่งผลตอนทำประชามติได้ว่าถ้าอย่างนั้นจะแก้กันไปทำไม ถ้าแก้แล้วไม่ได้ดีขึ้น”

นอกจากนั้น ในเนื้อหายังกำหนดเงื่อนไขที่ถูกตั้งคำถามอีกอย่างน้อย 3 ประเด็น คือ กรณีการให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบหรือไม่ หลังการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จ ที่ยังให้ใช้เสียง สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 กับให้มีบทเฉพาะกาล กำหนดให้วุฒิสภาและองค์กรอิสระที่มีอยู่ทำหน้าที่ต่อไปจนครบวาระ

สุดท้ายแม้จะผ่านการพิจารณาวาระ 2 ไปได้ และชงตั้งคำถามข้อที่ 1 ข้อที่ 2 รอส่งให้ ครม.ไปดำเนินการต่อไว้แล้วก็ตาม ยังต้อง ‘ลุ้น’ การลงมติวาระ 3 ในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ หรืออย่างช้าในวันที่ 6-9 มกราคมปีหน้าว่าจะผ่านได้หรือไม่

งานนี้ฝากความหวังไว้กับคนกดปุ่ม สว.จะเปิดไฟเขียวให้เหมือนตอนโหวตรับหลักการหรือไม่ และมีความเสี่ยงสูงยิ่งจะถูกคว่ำในวาระสาม?!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์