ราคาทองคำไทยทะลุ 60,000 บาท – วาณิชธนกิจชี้เป้า “ทองโลก” แตะ 4,300 ดอลลาร์ หนุนแรงซื้อจากชัตดาวน์–เฟดลดดอกเบี้ย
ราคาทองคำในประเทศพุ่งทะลุ 60,000 บาทต่อบาททองคำ เป็นครั้งแรกในรอบปี ขณะที่ราคาทองคำโลก (Gold Spot) เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 3,950–3,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยสำคัญ ทั้งความไม่แน่นอนทางการคลังของสหรัฐฯ แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงทั่วโลก และแรงซื้อทองคำต่อเนื่องจากธนาคารกลางรายใหญ่
“ชัตดาวน์สหรัฐฯ” จุดไฟแรงซื้อทองคำไม่หยุด
วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ Government Shutdown ในสหรัฐฯ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของราคาทองคำ
หากยังไม่มีมติออกมาภายในสัปดาห์นี้ แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะยังคงหนุนราคาให้ขยับขึ้นต่อเนื่อง แต่หากสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเร็วกว่าคาด อาจเห็นแรงขายทำกำไรบางส่วน เพราะตลาดได้สะท้อนข่าวบวกนี้ไปแล้วในระดับหนึ่ง
— — วรุต รุ่งขำ, YLG
เฟดอาจ “ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด” กดดันทองคำระยะสั้น
ตลาดกำลังจับตารายงานการประชุม FOMC (FOMC Minutes) ซึ่งจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงท่าที “ผ่อนคลายเชิงรุก” ตามที่ประกาศไว้หรือไม่
“หากรายงานเฟดสะท้อนว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยมากกว่าสองครั้งในปีนี้ อาจเป็นแรงกดดันให้ราคาทองคำพักฐานลงมาได้ในระยะสั้น” วรุตกล่าว
ขณะเดียวกัน หากกองทุนทองคำขนาดใหญ่ เช่น SPDR Gold Trust เริ่ม “ขายทองต่อเนื่อง 2–3 วัน” จะเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเริ่มชะลอ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อแรงขายทำกำไรระยะสั้น
ดอกเบี้ยโลกลด – ดอลลาร์ยังอ่อนต่อเนื่อง
แม้มีแรงขายระยะสั้น แต่แนวโน้มใหญ่ของทองคำยังอยู่ในขาขึ้น เพราะ “ภาพรวมดอกเบี้ยโลก” ยังคงอยู่ในช่วงผ่อนคลาย ทั้งจากเฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยต่ำและอาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
วรุตเสริมว่า “หากเยนอ่อนค่าเกินคาด ดอลลาร์อาจแข็งระยะสั้นได้บ้าง แต่แนวโน้มระยะยาวยังอ่อนค่าต่อ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคำโดยรวม”
แนวรับ–แนวต้านทองคำ
Gold Spot
• แนวรับ: 3,863 และ 3,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• แนวต้าน: 3,932 (ย่อย) และ 3,957 ดอลลาร์ (หลัก)
ทองคำไทย
• แนวรับ: 59,300 – 58,650 บาท/บาททองคำ
• แนวต้าน: 60,400 – 60,800 บาท/บาททองคำ
แนะนำ “ทยอยขายบางส่วน” หากราคาทะลุแนวต้านบนสุด เพื่อบริหารความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไร
ซิลเวอร์ (Silver) พุ่งแรง 67% ปีนี้ – ลุ้นแตะ 50 ดอลลาร์
นอกจากทองคำ โลหะเงิน (Silver) ยังกลายเป็นดาวเด่นปีนี้ โดยราคาพุ่งขึ้นกว่า 67.22% YTD แซงหน้าทองคำที่บวกประมาณ 49%
วรุตมองว่า “ซิลเวอร์มีแนวโน้มขยับแตะระดับ 49–50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ในปีนี้ แม้ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ปี 2012 ที่ 49.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์”
- แนวรับซิลเวอร์: 47.25 – 46.60 ดอลลาร์
- แนวต้านซิลเวอร์: 48.72 – 49.52 ดอลลาร์
หากทะลุแนวต้านบนสุด มีโอกาสทดสอบระดับสูงสุดรอบ 15 ปี
ธนาคารกลางทั่วโลกแห่ซื้อทอง – ดอลลาร์อ่อนหนุนราคา
อีกแรงหนุนสำคัญคือการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ และลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าต่อเนื่อง
“สถานการณ์ชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และทำให้ทองคำยิ่งน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย” นายวรุตกล่าว
วาณิชธนกิจชี้เป้า “ทองโลก” แตะ 4,000–4,300 ดอลลาร์
สถาบันวาณิชธนกิจระดับโลกหลายแห่งเริ่มปรับเป้าราคาทองคำขึ้นต่อเนื่อง
• Goldman Sachs: คาดแตะ 4,000 ดอลลาร์กลางปีหน้า และ 4,300 ดอลลาร์ปลายปี 2025
• UBS: ประเมินแตะ 4,200 ดอลลาร์ในไม่กี่เดือนข้างหน้า
• HSBC: มองว่าทองคำจะ “ยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์” ได้อย่างยั่งยืน
สรุปแนวโน้ม
ราคาทองคำยังอยู่ใน “แนวโน้มขาขึ้น”
แต่ระยะสั้นอาจเห็นแรงขายทำกำไร หากเฟดส่งสัญญาณชะลอลดดอกเบี้ย
นักลงทุนควรทยอยขายบางส่วนเมื่อราคาทะลุแนวต้าน และใช้จังหวะย่อตัวเข้าซื้อ


