จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ซึ่งมีการปะทะและโจมตีอย่างรุนแรง ทำให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่ค้าขาย และชีวิตความเป็นอยู่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดสุโขทัย น่าน และแพร่ ได้ซ้ำเติมความยากลำบากให้กับประชาชนจำนวนมาก
ล่าสุด มีเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานรับจ้าง ขายของในตลาด หรือประกอบอาชีพอิสระ ที่ต้องหยุดกิจการชั่วคราว เนื่องจากความไม่ปลอดภัยและผลกระทบจากคำสั่งอพยพ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจจากบริษัทไฟแนนซ์และธนาคารต่างๆ ขอให้ชะลอการทวงถามค่างวดรถและหนี้สินชั่วคราวพร้อมขอพักชำระหนี้ เพื่อให้มีเวลาในการฟื้นตัวจากเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
“ทุกวันนี้เราไม่ได้ออกไปขายของ หรือไปรับจ้างได้เลย ไม่มีรายได้เลยสักบาท แต่ยังมีภาระค่าผ่อนรถ ผ่อนของ ซึ่งไม่รู้จะเอาที่ไหนมาจ่าย ขอแค่พักหนี้ไว้ก่อน หรืออย่างน้อยช่วยรับฟังและให้โอกาสบ้าง”
— ชาวบ้าน จ.ศรีสะเกษ กล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เผย สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก รับทราบถึงสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นทั้งจากเหตุการณ์ชายแดนและน้ำท่วม และได้เร่งดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการพักชำระหนี้ การลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ และการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นได้

มาตรการที่ออกมา ครอบคลุมทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเพื่อธุรกิจ โดยธนาคารจะพิจารณาตามสถานการณ์และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย โดยลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ขอความช่วยเหลือผ่านทางสาขา หรือเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่ดูแลอยู่ได้ทันที
“สมาคมฯ และธนาคารสมาชิกเข้าใจความยากลำบากของประชาชน และขอยืนเคียงข้างทุกคนในวิกฤตครั้งนี้อย่างเต็มที่”
— ผยง กล่าว
ทั้งนี้ หลายธนาคารได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแล้ว ส่วนลูกค้าที่มีภาระกับบริษัทไฟแนนซ์ที่อยู่นอกระบบธนาคาร อาจต้องรอดูท่าทีจากแต่ละรายว่า จะมีมาตรการใดตามออกมาหรือไม่ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องที่กำลังดังขึ้นเรื่อยๆ จากประชาชนแนวชายแดนที่ยังต้องอาศัยความเห็นใจเพื่อก้าวข้ามความยากลำบากในครั้งนี้