อุตสาหกรรมรถยนต์มือสองไทยกำลังเผชิญ ‘วิกฤติซ้อนวิกฤติ’ จากพิษเศรษฐกิจ ราคาสินค้าพุ่ง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน และแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่งผลให้ยอดขายดิ่งต่อเนื่อง สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อลดฮวบ ในขณะที่จำนวนรถมือสองที่เข้าสู่ตลาดยังคงหดตัว
ในบริบทนี้ สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ได้จัดเวทีใหญ่ “เจาะลึกธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว รวมพลังฝ่าวิกฤติ” ขึ้น เพื่อระดมความคิดเห็นจากตัวแทนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน และผู้นำทางความคิด ร่วมถอดรหัสวิกฤติ และเสนอทางรอดสำหรับอุตสาหกรรม โดยงานนี้มี เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน

ขณะที่คนสำคัญในอุตสาหกรรม ร่วมเวทีนี้ ประกอบด้วย
วิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว
ผู้บริหารระดับสูงจากธนาคาร ทั้งกรุงศรีฯ, ทหารไทยธนชาต, เกียรตินาคินภัทร
ผู้นำอุตสาหกรรม EV และสื่อยานยนต์ชั้นนำ

ชี้ชัด 6 ประเด็นหลักที่สะท้อนจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรม
1. ตลาดรถมือสอง ‘ไม่ใช่วิกฤติชั่วคราว’ แต่คือจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง
วิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ระบุว่า อุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จากสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นว่า ยอดขายรถมือสองหดตัวต่อเนื่อง โดยครึ่งปีแรก 2568 ยอดขายหดอีก 10% รถเข้าสู่ตลาดลด 28% สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้ซื้อ ‘ลังเล’ เพราะเศรษฐกิจฝืดเคือง และเริ่มหันความสนใจไปยังรถ EV

2. ขาดมาตรฐานกลาง ทำให้ตลาดขาดความเชื่อมั่น
สุวิทย์ ชอบประดู่ รองนายกสมาคมฯ และ ธนพล บริบูรณ์ จากธนาคารเกียรตินาคินภัทร ชี้ว่าการไม่มีมาตรฐานตรวจสอบคุณภาพรถ ทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจ และสถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ สมาคมจึงเตรียมผลักดันระบบตรวจสภาพ จัดเกรด เปิดประวัติรถทุกคัน ก่อนนำเข้าสู่ตลาด
3. ไฟแนนซ์ต้องยืดหยุ่น-เข้าใจพฤติกรรมผู้ซื้อใหม่
วรรณดี คูประเสริฐวงศ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ นายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ จากธนาคารทหารไทยธนชาต สะท้อนว่าผู้บริโภคยุคใหม่ส่วนใหญ่ไม่มีรายได้ประจำ เช่น ฟรีแลนซ์ แม่ค้าออนไลน์ ฯลฯ มีความต้องการสินเชื่อที่ยืดหยุ่น ไม่ใช่ระบบเดิมที่เข้มงวดเกินไป ซึ่งสถาบันการเงินพร้อมปรับเกณฑ์ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ หากมีข้อมูลกลางที่ตรวจสอบได้
4. EV เปลี่ยนสมการตลาดมือสอง ไม่ใช่เพียงภัยคุกคาม
งานนี้ ยังมีอีกเวทีเสวนาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “EV กับความเชื่อมั่นของ Eco System” ท่ามกลางผู้ร่วมเสวนาคนสำคัญ ประกอบด้วย สุโรจน์ แสงสนิท (EVAT), จาตุรนต์ โกมลมิศร์ (มอเตอร์โชว์), และ พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ทั้งหมดต่างเห็นพ้องว่า EV เป็นคลื่นใหม่ที่อุตสาหกรรมต้องเรียนรู้และรับมือ โดยเฉพาะถ้ารถยนต์ EV ต้องอยู่ในตลาด EV มือสอง ที่ยังขาดระบบตรวจสอบแบตเตอรี่และสภาพรถอย่างเป็นมาตรฐาน ก่อนเสนอให้สมาคมฯ และรัฐเริ่มวางระบบประเมิน EV มือสอง และอบรมบุคลากรด้านเทคนิคให้ทันรองรับอนาคต

5. รัฐต้องมีบทบาทกำกับ-ส่งเสริม-คุ้มครองผู้บริโภคไปพร้อมกัน
งานนี้ ยังมีผู้แทนจาก สคบ. และ ปปง.ร่วมเสนอ โดยให้ผลักดันฐานข้อมูลรถกลางที่โปร่งใส ตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกคัน ลดโอกาสการฉ้อโกง หรือการใช้เต็นท์รถเป็นช่องทางฟอกเงิน รวมถึงพัฒนาเกณฑ์ทางกฎหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมในธุรกิจรถมือสอง
6. ‘ความเชื่อมั่น’ คือจุดตาย และจุดเริ่มต้นใหม่ของอุตสาหกรรม
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประธานของงานนี้ ยังย้ำว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคือสิ่งสำคัญที่สุดที่อุตสาหกรรมต้องร่วมกันสร้าง ส่วนของรัฐบาลก็พร้อมผลักดันการกำหนดมาตรฐานกลาง และสนับสนุนผู้ประกอบการที่เข้าสู่ระบบใหม่ เพื่อสร้างตลาดที่โปร่งใส ยั่งยืน และมีธรรมาภิบาล

การรวมตัวของรัฐ เอกชน สถาบันการเงินครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมรถมือสองไทย ยังมีอนาคตหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ‘รีเซ็ต’ ระบบใหม่ที่มีมาตรฐาน โปร่งใส และเข้าใจผู้บริโภครุ่นใหม่
“รถมือสองจะไม่หายไปจากระบบเศรษฐกิจไทย แต่จะเปลี่ยนไปในรูปแบบที่น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์คนยุคใหม่มากกว่าเดิม”
