ท่ามกลางแรงกดดันทางการค้ารอบใหม่จากสหรัฐอเมริกา ที่เตรียมบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับหลายประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งชาติที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งหาทางออก
ล่าสุด พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เมื่อค่ำวานนี้ ว่าการหารือเป็นไปในทิศทางเชิงบวก โดยใช้เวลาเต็ม 30 นาทีตามกรอบที่กำหนด และได้พูดคุยถึงข้อเสนอจากฝั่งไทยในการเปิดตลาด พร้อมทั้งเน้นย้ำศักยภาพในการส่งออกและลงทุนร่วม
“ฝั่งสหรัฐฯ มองว่าข้อเสนอของไทยมีการปรับปรุงที่ดีขึ้น หรือ Very Substantial Improvement ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการเจรจา”
— พิชัย กล่าว
เขาระบุว่า แม้ไทยอาจต้องเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐบางรายการ แต่ต้องแลกมากับการเดินเกมรุกเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการลงทุน ส่งออก และสร้างสมดุลการค้าระหว่างประเทศ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเตรียมมาตรการรองรับผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะภาคเกษตรและ SME ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปิดตลาดบางเซกเตอร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังแสดงความมั่นใจว่า ข้อเสนอจากไทยน่าจะทำให้สหรัฐฯ ยอมลดอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ลงจากเดิม 36% เหลือราว 20% ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน และคาดว่า จะได้รับคำตอบจากสหรัฐฯ ภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนมาตรการจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม
ยังไม่จบ! Transshipments รอเจราจารอบใหม่
กรณี สินค้าที่ผ่านแดน (Transshipments) หรือการส่งออกจากประเทศที่ 3 ผ่านไทยเพื่อใช้สิทธิพิเศษ พิชัย ระบุว่า ยังต้องมีการหารืออย่างละเอียดเพิ่มเติมกับสหรัฐ โดยคาดว่าจะมีการแยกอัตราภาษีตามหมวดสินค้า และอาจต้องติดตามการปรับเกณฑ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
“จุดสำคัญที่สุดของเราคือการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันสินค้าไทย ให้ต้นทุนต่ำ คุณภาพสูง พร้อมเข้าสู่ตลาดโลกได้ในทุกมิติ”
— รองนายกฯ กล่าว