คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจไทย ในการประชุมประจำเดือนสิงหาคม 2568 โดยมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้นจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศ แต่ยังเตือนภาคเอกชนไทยให้เร่งปรับตัวเชิงโครงสร้าง รับมือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ภายใต้กติกาใหม่ของการค้าโลก
เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หลังสหรัฐฯ ลดภาษีศุลกากร - IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP
กกร. ระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงภาษีกับหลายประเทศ ส่งผลให้อัตราภาษีศุลกากรที่เคยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถูกปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกับประเทศในเอเชียและอาเซียน
จากการปรับตัวนี้ IMF ได้ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2568 เป็นเติบโต 3.0% จากเดิม 2.8% แม้ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 3.5% แต่สะท้อนความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวท่ามกลางความไม่แน่นอน เช่น การจัดเก็บภาษีสินค้าข้ามประเทศ (transshipment) และข้อกำหนดด้าน Local Content ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเจรจา
ไทยต้องปรับตัวรอบด้าน - แข่งทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ
กกร. เตือนว่า ไทยจะต้องรับมือกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น โดยเฉพาะ สินค้าส่งออกที่ถูกลดภาษีจากประเทศคู่แข่ง และ สินค้านำเข้าที่เข้ามาแข่งตลาดภายในประเทศ ซึ่งจะกระทบกลุ่มที่มีอัตรากำไรต่ำ (low-margin)
ภาคเอกชนจึงควรเร่งดำเนินการ ต่อไปนี้
• ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม
• ยกระดับกระบวนการผลิตและอุตสาหกรรมต้นน้ำ
• เพิ่มการใช้ local content เพื่อลดความเสี่ยงด้านภาษี
• ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่ม productivity และลดต้นทุน
• ยกระดับทักษะแรงงาน ทั้งในประเทศและแรงงานต่างด้าว
“นโยบายการค้าของสหรัฐฯ คือ wake-up call ที่สำคัญที่สุดในรอบหลายปี ไทยต้องอาศัยช่วงเวลานี้ในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันระยะยาว”
กกร. ปรับเพิ่ม GDP ไทยปี 2568 เป็น 2.2% - ส่งออกโต 3%
ภายใต้ปัจจัยบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่นำไปสู่การลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย จาก 36% เหลือ 19% ทำให้ กกร. ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 ขยายตัว อยู่ในช่วง 1.8–2.2% (จากเดิม 1.5–2.0%) และคาดว่าส่งออกจะขยายตัวได้ 2–3%
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงจาก
• แรงส่งชั่วคราวของการเร่งส่งออกหมดไป
• ค่าเงินบาทแข็ง
• ปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ–กำลังซื้อชะลอ
• รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะใกล้ (short haul)
• ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาที่อาจกระทบเชิงจิตวิทยาและความเชื่อมั่น
กกร. ชี้ไทยยังขาดข้อมูลโครงสร้างการผลิต - จำเป็นเร่งสร้างฐานข้อมูล Local Content
จุดอ่อนสำคัญของประเทศไทยในยุคการค้าใหม่คือ การขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างการผลิตของแต่ละอุตสาหกรรม โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับ
• การใช้วัตถุดิบในประเทศ (ขั้นต้น–ขั้นกลาง)
• สัดส่วน Regional Value Content (RVC)
กกร. เผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนได้เริ่มเก็บข้อมูลพื้นฐานบางส่วนแล้ว แต่จำเป็นต้องอาศัย ความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่แม่นยำ เชื่อถือได้ และใช้ในการ เจรจาระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภายใต้ New Trade Paradigm ซึ่งเน้นเนื้อหาและคุณภาพสินค้า ไม่ใช่แค่ปริมาณหรือราคาตลาด
