ตลาดหุ้นไทยผันผวนต่อ รอความชัดเจน “ศาลรัฐธรรมนูญ - เจรจากัมพูชา – ดอกเบี้ย”

5 ส.ค. 2568 - 04:19

  • ลุ้นคำตัดสิน “แพทองธาร” ศาลรัฐธรรมนูญ – นักลงทุนเริ่มพักการลงทุน

  • การเจรจา GBC ไทย–กัมพูชา อาจพลิกทิศตลาด: บวก-ลบ-ระเบิดเวลา

  • กนง. 13 ส.ค. จ่อหั่นดอกเบี้ยครั้งแรก – ไทยเริ่มคลายคุมเข้มนโยบายการเงิน

ตลาดหุ้นไทยผันผวนต่อ รอความชัดเจน “ศาลรัฐธรรมนูญ - เจรจากัมพูชา – ดอกเบี้ย”

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (5 ส.ค. 2568) มีแนวโน้มผันผวนต่อในกรอบแคบ แม้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างหลังดัชนีอ่อนตัวลงก่อนหน้า แต่ภาพรวมยังขาดปัจจัยบวกใหม่ และนักลงทุนยังรอความชัดเจนจากทั้งปัจจัยในและต่างประเทศ

ปัจจัยกดดันและแรงหนุนที่ต้องจับตา

1. เจรจาการค้าสหรัฐฯ คลี่คลายเกือบสมบูรณ์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา (Dow Jones +585 จุด, S&P 500 +403 จุด) รับแรงหนุนจากกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด และกระแสคาดการณ์ว่า Fed อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 17 ก.ย. นี้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงต้องติดตามผลการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับจีนและอินเดีย ซึ่งยังไม่สิ้นสุด ขณะที่ฝั่งไทย ผลการเจรจาออกมาตามคาด รอดูผลต่อเนื่องของมาตรการ non-tariff ที่อาจส่งผลต่อธุรกิจรายกลุ่มในตลาดหุ้น

2. การประชุม GBC ไทย-กัมพูชา: ชี้ชะตาทิศทางตลาด

ผลการเจรจาภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างไทย-กัมพูชา จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางตลาด โดยประเมินได้ 3 สถานการณ์คือ

• เจรจาสำเร็จราบรื่น: เป็นบวกต่อตลาด ช่วยหนุนหุ้นที่มีฐานธุรกิจในกัมพูชา เช่น CBG, SAV

• ยังไม่ชัดเจน: ตลาดอาจอึมครึม ไร้ทิศทางชัดเจน

• เจรจาล้มเหลว/เกิดความขัดแย้ง: เป็นลบต่อตลาด สร้างแรงขายกดดันจากความกังวลด้านเสถียรภาพการเมืองและความมั่นคง

3. จับตาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี “แพทองธาร”

หลังจากนายกรัฐมนตรีส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน” ไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ส.ค. นักลงทุนจะเริ่มจับตาวันนัดหมายคำวินิจฉัย โดยช่วงเวลาก่อนหน้านั้น 1 สัปดาห์ ตลาดมีแนวโน้มจะ “พักการลงทุน” รอความชัดเจน เนื่องจากผลคำตัดสินอาจกระทบต่อภาพรวมการเมืองและความเชื่อมั่นในตลาดทุนโดยตรง

4. ประชุม กนง. 13 ส.ค.นี้: ลุ้นลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดาโอคาดว่า กนง. มีแนวโน้มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก 1.75% เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์ภาษี (Tariff) คลี่คลาย และธนาคารกลางหลายประเทศทยอยลดดอกเบี้ยเช่นกัน

หาก กนง. “ยังคงดอกเบี้ย” อาจสะท้อนว่า ธปท. ยังประเมินว่าแรงกระตุ้นทางการเงินยังไม่จำเป็นในขณะนี้ และอาจรอความชัดเจนจากการเปลี่ยนตัวผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ก่อน

5. ราคาน้ำมันผันผวน - หุ้นพลังงานยังถูกกดดัน

ราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวล OPEC+ อาจเพิ่มกำลังการผลิต และประเด็นทางการเมืองจากคำขู่ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่อาจกดดันอินเดียให้งดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งอาจทำให้ซัพพลายน้ำมันโลกลดลง หุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP ถูกแรงขายมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน

กลยุทธ์การลงทุน: “เลือกหุ้นรายตัว” – สลับหมุนไวมากขึ้น

มงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล. ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า กรอบเวลาในการลงทุนของนักลงทุนสั้นลง ทำให้กลยุทธ์ “สลับหุ้นหมุนไว” กลับมาโดดเด่น

• หุ้นแนะนำในเชิงกลยุทธ์ ได้แก่:

• หุ้นพื้นฐานดี แต่ราคายังไม่ขึ้นมาก เช่น MTC, CPALL, BDMS

• หุ้นที่มีโมเมนตัมจากกระแสตลาด เช่น DELTA, GULF, AOT, OR*

• หุ้นเตรียมขึ้น “XD”:

• PTTEP (ปันผล 4.10 บาท) XD วันที่ 8 ส.ค.

• SCC (ปันผล 2.50 บาท) XD วันที่ 13 ส.ค.

• นักลงทุนควรพิจารณาว่าจะเข้าถือเพื่อรับ “เงินปันผล” หรือเลือก “กำไรจากราคา” เนื่องจากราคาหุ้นอาจปรับลงหลัง XD มากกว่าจำนวนปันผลที่ได้รับ

• หุ้นในพอร์ตแนะนำวันนี้:

• MTC* (10%)

• TTB (10%)

• ADVANC (10%)

• GULF (10%)

ปัจจัยติดตามวันนี้

• การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

• การประกาศผลประกอบการของ บจ. อาทิ DOHOME, BCP, CPAXT, OR, CBG, SNNP, SPRC, TCAP ฯลฯ

• ติดตามการตัดสินใจจากศาลรัฐธรรมนูญ และผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์