บล.กรุงศรี มองแรงงานสหรัฐอ่อนแอกว่าคาด หนุน Fund Flow ไหลกลับเอเชีย-ไทยเด่น
กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนผ่านตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll) เดือนล่าสุดที่เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 110,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับขึ้นแตะ 4.2% และมีการปรับลดตัวเลขจ้างงานย้อนหลังถึง 2 เดือนรวมกันกว่า 260,000 ตำแหน่ง
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ เสื่อมความน่าเชื่อถือ?
รายงานจาก MUFG เตือนว่า กระบวนการจัดเก็บข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ เริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะจากปัญหาด้านบุคลากรในหน่วยงานราชการ ส่งผลให้ขนาดตัวอย่างลดลง ความแม่นยำต่ำลง และการวิเคราะห์ล่าช้า ซึ่งอาจทำให้ตลาด “ตอบสนองเกินจริง” กับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
ดอกเบี้ยขาลงหนุนเงินไหลกลับตลาดเกิดใหม่
ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอกระตุ้นให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเริ่ม “Pivot” หรือปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนพุ่งขึ้นแตะ 80% จากเดิมเพียง 40% ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (US 10Y Bond Yield) ปรับตัวลดลงถึง -14bps และดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) อ่อนค่าต่ำกว่า 100 จุด
เงินทุนไหลกลับเอเชีย – ไทยโดดเด่นในกลุ่ม EM
ภาพรวมการเงินโลกกำลังเข้าสู่ “Regime Shift” ไปสู่ภาวะดอกเบี้ยต่ำยาว (Lower-for-Longer Yield Regime) ซึ่งมักเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะเอเชีย และประเทศไทย โดยล่าสุด เงินบาทแข็งค่าทะลุ 32.45 บาท/ดอลลาร์ และเริ่มเห็น Fund Flow ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ ไทยได้เปรียบเชิงโครงสร้างเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง หลังจากการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ สิ้นสุดที่ระดับ 19% ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งใน EM อย่างอินเดีย บราซิล และเวียดนาม ทำให้ไทยถูกมองเป็น “Safe EM Haven” ในสายตานักลงทุนต่างชาติ
กลยุทธ์ลงทุน: SET มีโอกาสฟื้น – จับตาแนวรับสำคัญ
กรภัทรแนะนำว่า ภายใต้ภาวะดอกเบี้ยขาลงและแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติ ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสค่อยๆ ฟื้นตัว โดยให้กรอบดัชนี SET ที่:
• แนวต้าน: 1,228 / 1,235 จุด
• แนวรับ: 1,208 / 1,200 จุด
หากหลุดแนวรับ 1,200 จุด แนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในระยะสั้น และรอจังหวะเข้าซื้อใหม่
หุ้นเด่นแนะนำ
กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาลงและ Fund Flow ไหลเข้า ได้แก่:
• GULF: ได้ประโยชน์จากต้นทุนเงินที่ลดลง + เป็น Infra Play เด่นในภาวะดอกเบี้ยขาลง
• KTB: ได้ Sentiment บวกจากการกลับเข้าสู่ตลาดของ THAI และมี Valuation ถูกกว่ากลุ่ม
• KTC: หุ้นบริโภคที่ได้แรงหนุนจาก Bond Yield ที่ลดลง และเงินบาทแข็งค่าช่วยต้นทุนทุน