ชาวนิวยอร์กกำลังเผชิญกับวิกฤตราคากาแฟที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาเมล็ดกาแฟในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้น 21% ระหว่างสิงหาคม 2024 - สิงหาคม 2025 เพราะผลพวงจากโลกร้อน ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ
โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของราคากาแฟมาจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ผลักดันให้ราคากาแฟอาราบิก้าพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ประกอบกับค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นและภาษีศุลกากร ร้อยละ 50 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม สำหรับสินค้าหลายประเภทจากบราซิล
ผลกระทบต่อธุรกิจร้านกาแฟ
เจเรมี ไลแมน ผู้ร่วมก้าตั้งเครือข่ายร้านกาแฟ Birch Coffee ในนิวยอร์ก เปิดเผยว่า สิ่งนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเรา เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และเกษตรกรทุกระดับ โดย Birch Coffee ที่ก่อตั้งในปี 2009 และมีสาขา 14 แห่งทั่วเมือง ต้องเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของราคากาแฟประมาณ 55% จากปีที่แล้ว
ไลแมน ระบุว่าการผลิตจากบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดและจัดหาเมล็ดกาแฟดิบให้สหรัฐฯ 30% กลายเป็น "ราคาแพงเกินไป" ทำให้ Birch Coffee ต้องหาแหล่งเมล็ดกาแฟจากที่อื่น ขณะที่ผู้นำเข้าหยุดสั่งซื้อชั่วคราวเว้นแต่จะมีการร้องขอพิเศษ

การปรับตัวของตลาด
สภาผู้ส่งออกกาแฟบราซิล (Cecafe) รายงานว่าการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 53% ณ เดือนกันยายนเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยผู้นำเข้าหันไปหาแหล่งจากเม็กซิโก เปรู และเอธิโอเปียแทน
ร้านกาแฟต่างๆ ปรับตัวด้วยการเพิ่มราคา โดย Birch Coffee เพิ่มราคา 50 เซนต์ต่อแก้วสำหรับการขายในร้าน และ 2-3 ดอลลาร์ต่อถุงสำหรับกาแฟคั่วที่ขายออนไลน์ ขณะที่ร้านอื่นๆ นำระบบค่าธรรมเนียมปรับได้มาใช้ตามระดับภาษีที่ทรัมป์กำหนดในแต่ละวัน
ปฏิกิริยาของผู้บริโภค
เจสัน นิคเคิล วัย 45 ปี แม้ยังคงดื่มกาแฟเป็นประจำแต่เริ่ม "ระมัดระวังมากขึ้นในการเลือกร้าน" โดยเขาไม่สามารถจินตนาการได้ที่จะจ่ายเกิน 6 ดอลลาร์ต่อแก้วรวมทิป
สำหรับคอร์ตาโด ส่วนแอนนา ไซโมนอฟสกี วัย 32 ปี กล่าวว่าเพดานราคาของเธอสำหรับลาเต้เพิ่มจาก 7 ดอลลาร์ เป็น 10 ดอลลาร์ โดยเธอดื่มกาแฟเป็นของพิเศษในโอกาสสำคัญ
ทั้งนี้ ทรัมป์เพิ่งให้ความหวังแก่ชาวอเมริกัน 2 ใน 3 ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ เมื่อเขาใส่กาแฟในรายการสินค้าที่เกษตรกรสหรัฐฯ ผลิตไม่เพียงพอ ซึ่งอาจได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรพร้อมกับชาและโกโก้ นอกจากนี้ สมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังร่วมกันเสนอร่างกฎหมายเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์กาแฟในแบบพลเมืองที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน


