เงินบาทแรงต่อ รับดอลลาร์อ่อน-ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย

8 ธ.ค. 2568 - 02:06

  • เงินบาทเปิดเช้า 31.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อน

  • ตลาดมั่นใจ เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยกว่า 90% กดดันดอลลาร์อ่อนค่า

  • จับตาผลประชุม FOMC 11 ธ.ค. และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มความผันผวน

เงินบาทแรงต่อ รับดอลลาร์อ่อน-ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย

ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง รับจังหวะดอลลาร์อ่อน-ตลาดมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย

ค่าเงินบาทยังเดินหน้าแข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเงินดอลลาร์อ่อนแรงลง กระแสมั่นใจ ‘เฟดลดดอกเบี้ย’ หนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเป็นระยะ

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงิน-ตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ 31.94 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนที่ 32.03 บาทต่อดอลลาร์ โดยทิศทางเงินบาทเริ่มแข็งค่าตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และเคยขึ้นไปทดสอบโซน 31.80 บาทต่อดอลลาร์ ในวันที่ 5 ธันวาคม แม้เป็นวันหยุดของตลาดไทย

แรงหนุนสำคัญมาจาก
• เงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงตามความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนธันวาคม (โอกาสมากกว่า 90%)
• ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีแรงขายดอลลาร์ในตลาดโลก
อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดแข็งค่าได้ไม่ต่อเนื่องนัก เพราะคืนวันศุกร์ (5 ธันวาคม) ราคาทองคำกลับมาปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร และผู้เล่นในตลาดเริ่มปรับพอร์ต เพื่อรอผลประชุมเฟด ขณะเดียวกันเงินบาทยังถูกกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมน้ำมัน หลังราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้น

ตลาดจับตา FOMC - ความเสี่ยงผันผวนยังสูง

สัปดาห์นี้ ตลาดเงินทั่วโลกยังเผชิญความผันผวนจากการรอผลประชุม FOMC ช่วงเช้ามืดวันที่ 11 ธันวาคม (เวลาไทย) โดยกรุงไทยประเมินว่าเฟดอาจ ‘ไม่เป็นเอกฉันท์’ ในการลดดอกเบี้ย 25bps สู่กรอบ 3.50–3.75% พร้อมคาดว่า Dot Plot อาจมีการกระจายความเห็นมากขึ้น แม้ค่ากลางจะใกล้เคียงการประชุมก่อนหน้า

ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม เช่น
• JOLTS Job Openings
• Jobless Claims
รวมถึงความคืบหน้าสงครามรัสเซีย–ยูเครน และทิศทางเศรษฐกิจยุโรป–เอเชีย

เอเชียจับตา BOJ - จีนรายงานเงินเฟ้อ ไทยเผชิญการเมืองระยะสั้น

ฝั่งเอเชีย ตลาดรอการตัดสินใจของ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps ในเดือนธันวาคม ขณะที่จีนเตรียมรายงานตัวเลข CPI และ PPI เดือนพฤศจิกายน

ฝั่งไทย แม้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ แต่ตลาดจับตาความตึงเครียด ไทย–กัมพูชา ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นเพียง “noise ระยะสั้น” และตลาดยังให้ความสำคัญกับผลประชุมเฟดมากกว่า

แนวโน้มเงินบาท “แข็งค่าแบบ Sideways Down” แต่ยังมี Two-Way Risk สูง

กรุงไทยประเมินว่า ค่าเงินบาทยังมีทิศทาง แข็งค่าแบบ Sideways Down จาก
• ไทยเข้าสู่ไฮซีซั่นท่องเที่ยว
• ตลาดเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย
คาดปลายปี 2568 เงินบาทอาจอยู่แถว 31.85 ± 0.25 บาท/ดอลลาร์

แต่เงินบาทยังมีความเสี่ยงสองทิศทาง (Two-Way Risk) หากเฟดให้สัญญาณ ‘คงดอกเบี้ย’ หรือส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด ซึ่งอาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงทันทีอีก 20 สตางค์ต่อดอลลาร์

ระดับสำคัญที่ต้องติดตาม
• แนวต้านอ่อนค่า: 32.20–32.30 บาท/ดอลลาร์
• หากทะลุขึ้นไป อาจกลับเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าใหม่
• ทิศทางขึ้นกับราคาทองคำ–ฟันด์โฟลว์–เงินหยวนจีน

กรอบการเคลื่อนไหว
• กรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้: 31.75–32.30 บาท/ดอลลาร์
• กรอบ 24 ชั่วโมงข้างหน้า: 31.80–32.00 บาท/ดอลลาร์

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์