ขอจับตา ‘สายลับเขมร’ จุดชนวนสงครามข้อมูล-ศก.-มั่นคง

27 ก.ค. 2568 - 05:25

  • ภัยความมั่นคงไม่ใช่แค่ปืน แต่กระทบถึงปากท้อง

  • ตำรวจชี้ 5 พฤติกรรม ‘สายลับ’ เสี่ยงภัยเงียบ อาจอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

  • ประชาชนคือกำแพงด่านแรก ร่วมปกป้องชาติ–ค้ำเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ขอจับตา ‘สายลับเขมร’ จุดชนวนสงครามข้อมูล-ศก.-มั่นคง

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงทวีความตึงเครียด นอกจากการปะทะทางทหารแล้ว ยังมีรายงานความพยายามลักลอบส่งข้อมูลยุทธศาสตร์ของไทยไปยังฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอาจเข้าข่าย ‘อาชญากรรมด้านความมั่นคง’ ที่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใยต่อพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็น ‘สายลับ’ ในช่วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด โดยเฉพาะผู้ที่พยายามสังเกต ติดตาม หรือบันทึกข้อมูลการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ทหาร–ตำรวจ ซึ่งถือเป็น ‘ข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์’

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ให้สังเกตลักษณะการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการสายลับ ดังนี้
1. การเก็บข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์-ลอบถ่ายภาพหรือวิดีโอที่ตั้งหน่วยทหาร จุดยุทธศาสตร์ เส้นทางลำเลียงเสบียงหรืออาวุธ
2. การติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่-สอดส่องการเคลื่อนย้ายกำลังพล หรือการจัดวางยุทโธปกรณ์ของหน่วยงานความมั่นคง
3. การกระทำที่ผิดปกติ เช่น ถ่ายภาพในพื้นที่บ่อยครั้ง เข้าใกล้พื้นที่ปฏิบัติการโดยไม่มีเหตุผล หรือเดินสำรวจพื้นที่โดยไม่มีจุดหมาย
4. การเข้าออกพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต-ปรากฏตัวในพื้นที่ที่มีคำสั่งอพยพ หรือในเวลาที่ผิดปกติ เช่น เวลากลางคืน
5. การครอบครองอุปกรณ์ต้องสงสัย เช่น กล้องส่องทางไกล แผนที่ยุทธศาสตร์ แผนผังพื้นที่ หรืออุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS

“หากพบว่ามีการลักลอบส่งข้อมูลให้ฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ‘ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร’ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต”

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

economy-security-spy-cambodia-information-warfare-SPACEBAR-Photo V01.jpg

ความมั่นคงสั่นคลอน เสี่ยงกระทบเศรษฐกิจชายแดน

กล่าวได้ว่า ประเด็น ‘สายลับ’ ไม่เพียงก่อผลกระทบความมั่นคง-ความไม่ปลอดภัยประชาชน เท่านั้น แต่ความขัดแย้งที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ยังกระทบลามเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่ทุกอย่างหยุดชะงัก ทั้งด้านการค้าข้ามแดน-แรงงาน-โลจิสติกส์

ด่านชายแดนหลายแห่ง เช่น ช่องจอม จ.สุรินทร์ และบ้านเขาดิน จ.สระแก้ว ต้องหยุดทำการชั่วคราว ขณะที่แรงงานกัมพูชาเริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางความไม่แน่นอน

ผู้ประกอบการในภาคการเกษตร-ก่อสร้าง เริ่มได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานกะทันหัน ส่วนภาคส่งออกต้องเลี่ยงเส้นทางชายแดน ทำให้ต้นทุนขนส่งพุ่งสูงขึ้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์