สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์บริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ออกแถลงขอความร่วมมือจากภาคเอกชน, อาสาสมัคร และพรรคการเมือง หยุดการเปิดเผยตำแหน่งศูนย์พักพิงหรือพื้นที่ล่อแหลมของพลเรือน ผ่านเว็บไซต์ แอป หรือแฟนเพจในช่วงนี้
จิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) ชี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้แสดงความกังวลและข้อห่วงใยในกรณีที่มีอาสาสมัครและภาคเอกชน รวมทั้งพรรคการเมืองได้จัดทำแอปพลิเคชันพิเศษหรือการสร้างแฟนเพจ Facebook ขึ้นมา โดยระบุถึงพิกัดโรงพยาบาล สถานที่หลบภัย และแหล่งชุมชนต่างๆ ในขณะนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเจตนาดี แต่ปรากฏว่ากองทัพกัมพูชายังคง เล็งโจมตีพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง กัมพูชายังไม่ลดละในการก่ออาชญากรรมสงคราม เช่นกรณีเช้าวันนี้ กระสุนตกที่บ้านตาโส อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ทำให้ สมช.มองว่า การเผยแพร่พิกัดออนไลน์อาจเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นข้อมูลโจมตี
จึงขอความร่วมมือในช่วงเวลาล่อแหลมเช่นนี้ งดการสร้างในการเปิดเว็บไซต์รายงานสถานการณ์ที่กำหนดจุดโลเคชั่น โดยใช้ Google Maps และแอปพลิเคชันบอกแผนที่ต่างๆ
ฝ่ายราชการยืนยันว่า ปัจจุบันมีระบบรายงานและประสานข้อมูลลับ (ระดับ ว.5) โดยให้ฝ่ายปกครอง องค์การปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประสานตรง กับผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้ข่าวรั่วไปยังฝ่ายตรงข้ามได้ จึงไม่จำเป็นต้องเปิดเผยผ่านโซเชียลหรือแผนที่ Google Maps ซึ่งเข้าถึงได้โดยทั่วไป
ขณะที่ในส่วนของพรรคการเมือง อยากขอพรรคประชาชน ปิดเว็บนี้ก่อน วันนี้เข้าใจว่ามีความกังวลและเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลได้ประสานงานในเชิงรับและดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 3 วันที่มีการประทะกันตามแนวชายแดนอยู่แล้ว โดยฝ่ายความมั่นคงจะไม่รายงานจุดที่ตั้งของศูนย์อพยพ หรือจุดอื่นๆ ที่มีความล่อแหลม จึงขอความร่วมมือในช่วงที่ยังมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจปิดหรือยกเลิกเว็บไซต์ หรือแฟนเพจ หรือช่องทางต่างๆ ที่จะทำให้กองทัพกัมพูชาสามารถใช้ในการโจมตีพลเรือนของเราได้


