กรมทรัพย์สินฯ ลุยปราบสินค้าปลอม 11 ด. ยึด 3.3 ล้านชิ้น

17 ธ.ค. 2568 - 09:21

  • เปิดปฏิบัติการเชิงรุก กวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศ

  • ของปลอมถูกยึดกว่า 3.3 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 1.14 พันล้านบาท

  • เดินหน้าคุ้มครองผู้บริโภค–สร้างความเชื่อมั่นสินค้าไทยในตลาดโลก

กรมทรัพย์สินฯ ลุยปราบสินค้าปลอม 11 ด. ยึด 3.3 ล้านชิ้น

กรมทรัพย์สินฯ เปิดเกมรุกปราบของปลอมทั่วประเทศ
11 เดือนกวาดล้าง 3.3 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายทะลุ 1.14 พันล้านบาท

ท่ามกลางความพยายามยกระดับความเชื่อมั่นการค้าไทยและคุ้มครองผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโดยสุจริต กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าเปิดปฏิบัติการเชิงรุก ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้นทั่วประเทศ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ มุ่งสกัดกั้นสินค้าละเมิดฯ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมยกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในตลาดออฟไลน์และออนไลน์

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ระดมกำลังร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ ลงพื้นที่ตรวจเข้มแหล่งจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ย่านการค้าสำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ การปฏิบัติการแบ่งออกเป็น 3 ชุดหลัก ได้แก่ ชุดจรยุทธ์ เฝ้าระวังศูนย์การค้าและย่านการค้าสำคัญในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ แพลตตินัม ประตูน้ำ สำเพ็ง สีลม และสุขุมวิท โดยลงพื้นที่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ชุดระดม กระจายกำลังตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยงในต่างจังหวัดทุกภูมิภาคทุก 2 สัปดาห์ และชุดตรวจสอบและประเมินผล ดูแลพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษหรือพื้นที่สีแดงในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 8 จังหวัด

ล่าสุด ระหว่างวันที่ 10-14 ธันวาคม 2568 ชุดระดมร่วมกับ บก.ปอศ. ลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา หนองคาย อุดรธานี และขอนแก่น สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด 5 ราย ตรวจยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวน 4,505 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 4.6 ล้านบาท เป็นสินค้า เช่น อะไหล่รถจักรยานยนต์ เสื้อผ้า และเคสโทรศัพท์มือถือ

สำหรับภาพรวมผลการปราบปรามในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-พฤศจิกายน) กรมทรัพย์สินทางปัญญาสามารถดำเนินคดีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้รวม 1,132 คดี ยึดของกลาง 3,344,841 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,140 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 789 คดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ 7 คดี และกรมศุลกากร 336 คดี

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 พบว่า แม้จำนวนคดีจะลดลงร้อยละ 16.15 แต่จำนวนของกลางเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.35 และมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 63.89 สะท้อนถึงความเข้มข้นของการปราบปรามเชิงรุกที่มุ่งเน้นการสกัดกั้นสินค้าละเมิดฯ จากแหล่งต้นน้ำ โดยของกลางในคดีที่ถึงที่สุดจะถูกทำลายทั้งหมด เพื่อปิดตายวงจรไม่ให้กลับมาหมุนเวียนในตลาดอีก

ขณะเดียวกัน กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ยกระดับการปราบปรามสินค้าละเมิดฯ ในตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง ผ่านมาตรการ Notice and Takedown ภายใต้บันทึกความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ได้แก่ Lazada, Shopee, TikTok Shop, NocNoc และ Nex Gen Commerce สามารถระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ ได้กว่า 2,867 รายการ และเตรียมขยายความร่วมมือไปยัง Line Shopping โดยมีกำหนดลงนาม MOU ในวันที่ 19 ธันวาคม 2568

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ย้ำว่า กรมฯ จะเดินหน้ายกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องมาตรฐานสากล เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เป็นธรรม ส่งเสริมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย พร้อมผลักดันแผนพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญา พ.ศ. 2569–2570 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐกว่า 30 หน่วยงาน

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือประชาชนร่วมรณรงค์ “ไม่ซื้อ ไม่ใช้ ไม่สนับสนุนสินค้าละเมิดฯ” เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐานและอาจก่ออันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย โดยผู้จำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้ามีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

economy-commerce-dip-push-thai-ip-global-SPACEBAR-Photo01.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์