หุ้นไทยผันผวน จับตา “คนละครึ่งพลัส” หนุนเศรษฐกิจ – ดาโอแนะ “เทรดสั้น” เก็งกำไรหุ้นฟื้นตัว

7 ต.ค. 2568 - 03:44

  • คนละครึ่งพลัสมาแน่! แจกสูงสุด 2,400 บาท หนุนเศรษฐกิจ Q4

  • ทองคำพุ่ง All Time High 3,900 ดอลลาร์ / 60,000 บาท จากชัตดาวน์สหรัฐฯ

  • กนง.อาจลดดอกเบี้ย เปิดเกมกระตุ้นเศรษฐกิจ–หนุนตลาดหุ้นฟื้น

หุ้นไทยผันผวน จับตา “คนละครึ่งพลัส” หนุนเศรษฐกิจ – ดาโอแนะ “เทรดสั้น” เก็งกำไรหุ้นฟื้นตัว

มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 ต.ค. 2568) คาดว่าจะยังเผชิญภาวะ ผันผวนต่อเนื่อง จากแรงรอดูผลการตัดสินใจทางเศรษฐกิจและการเมือง ทั้งในและต่างประเทศ โดยมี “โครงการคนละครึ่งพลัส” เป็นปัจจัยในประเทศที่สำคัญที่สุดของวัน

ปัจจัยในประเทศ : ลุ้น “Quick Big Win” กระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาโครงการ “คนละครึ่งพลัส” วงเงินรวมกว่า 44,000 ล้านบาท ครอบคลุมประชาชนราว 20 ล้านคน ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รับ 2,400 บาท ขณะที่ประชาชนทั่วไปได้รับ 2,000 บาท โครงการนี้เป็นหนึ่งใน “5 เสาหลัก” ของแผนเร่งด่วน Quick Big Win โดยกระทรวงการคลังคาดว่าจะช่วยหนุน GDP เพิ่มขึ้น 0.3–0.4% ถือเป็นแรงส่งสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี พร้อมกันนี้ ภาครัฐยังขับเคลื่อน “ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย” ผ่านความร่วมมือของหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจและการเงิน (สศค., ก.ล.ต., ตลท., FETCO) ภายใต้ 4 เสาหลัก ได้แก่ Quality Demand, Attractive Supply, Trusted Market และ Supportive Ecosystem เพื่อยกระดับความน่าสนใจของตลาดทุนไทย ทั้งการดึงดูด IPO กลุ่ม New Economy และโครงการ บัญชีออมการลงทุน (TISA) ซึ่งให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีแก่ผู้ลงทุนในหุ้นโดยตรง

ในส่วนของการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นวันที่ 8 ต.ค. ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสสูงที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับปัจจุบัน 1.50% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนกันยายนหดตัว -0.72% ต่อปี ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศลดลงต่อเนื่อง

ปัจจัยต่างประเทศ : “ชัตดาวน์สหรัฐฯ” – ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่

ด้านต่างประเทศ ตลาดยังคงจับตาผลกระทบจาก การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ (Shutdown) ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ส่งผลให้ข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวเลื่อนการประกาศ และเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ความเสี่ยงดังกล่าวหนุนให้เกิดแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะทองคำซึ่งราคาทะลุระดับ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศก็พุ่งแตะระดับ 60,000 บาทต่อบาททองคำ สอดคล้องกับความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจเริ่มวงจรการลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้

ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังกลุ่ม OPEC+ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายนต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงานไทย โดยเฉพาะ PTTEP

ในญี่ปุ่น การชนะเลือกตั้งของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรค LDP ที่มีจุดยืนสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ตลาดคาดว่ารัฐบาลจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุกมากขึ้น แม้เงินเยนอ่อนค่าลงแตะ 150 เยนต่อดอลลาร์ แต่คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเริ่มฟื้นตัว

กลยุทธ์การลงทุน: “เทรดสั้น – เก็บของดีราคาลงแรง”

มงคลมองว่า สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในโหมด “รอดูสถานการณ์” เนื่องจากมีหลายปัจจัยต้องติดตาม ทั้งนโยบายรัฐบาล การประชุม กนง.และทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายของต่างชาติ กลยุทธ์หลัก แนะนำให้นักลงทุนใช้แนวทาง “เก็งกำไรระยะสั้น (Trading)” และทยอยสะสมหุ้นที่ราคาปรับตัวลงแรงเกินพื้นฐาน โดยเฉพาะหุ้นที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว เช่น STA, BGRIM และ SPRC

ส่วนในพอร์ตแนะนำของดาโอ ยังคงถือหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และโรงแรม ได้แก่ COM7 (10%), PTTEP (10%), CENTEL (10%), GULF (10%), SCB (10%), ADVANC (20%) พร้อมถอดหุ้น LH และ MTC ออกจากพอร์ตชั่วคราว

ด้านเทคนิค ดาโอให้จับตาหุ้น BGRIM และ STPI ที่มีสัญญาณการกลับตัวเชิงบวก และอาจนำตลาดในระยะสั้น ส่วนภาพรวมดัชนี SET ยังเคลื่อนไหวใกล้ ระดับ 1,280 จุด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,270 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,300 จุด

สรุป:

ตลาดยังอยู่ในช่วงพักฐาน แต่ปัจจัยในประเทศเริ่มส่งสัญญาณบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

และหาก กนง. ลดดอกเบี้ยจริง จะเป็นแรงผลักสำคัญให้ Fund Flow เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดไทยอีกครั้ง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์