หลายประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่างแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับเข้าสู่กระบวนการการเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี
สหรัฐฯ
สหรัฐฯ มีความกังวลต่อการสู้รบที่ยังคงดำเนินต่อไป และการสูญเสียชีวิตในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
เราขอเรียกร้องอย่างยิ่งให้ยุติการสู้รบโดยทันที คุ้มครองพลเรือน และให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาใช้มาตรการผ่อนคลายความตึงเครียดตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและไทยได้ลงนามร่วมกันไว้ โดยมีประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียเป็นสักขีพยาน
ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ก็ออกคำเตือนให้พลเมืองสหรัฐฯ ‘หลีกเลี่ยง’ การเดินทางทั้งหมดภายในรัศมี 50 กิโลเมตรจากชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบที่ยังดำเนินอยู่และสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่คาดเดาไม่ได้ และรัฐบาลสหรัฐฯ มีขีดความสามารถจำกัดในการให้บริการฉุกเฉินในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ
จีน
จีนขอเรียกร้องให้ไทย และกัมพูชา ‘ใช้ความยับยั้งชั่งใจ’ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
“ในฐานะมิตรประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทย และกัมพูชา จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะใช้ความ ‘ยับยั้งชั่งใจ’ และทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น จีนจะยังคงมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดความตึงเครียดในแบบฉบับของตัวเอง” กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในแถลงการณ์
แคนาดา
กระทรวงการต่างประเทศของแคนาดาโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่า “แคนาดามีความกังวลอย่างยิ่งต่อความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา และขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติในระยะยาว”
เยอรมนี
แฟรงค์ ฮาร์ทมันน์ ผู้อำนวยการใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อไม่นานมานี้
“ผมรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อไม่นานมานี้ การสูญเสียชีวิตและความเสียหายใดๆ ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะบานปลาย ผมขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้งโดยทันที และมุ่งสู่การแก้ไขปัญหาโดยสันติ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพลเรือนเป็นอันดับแรก”
ออสเตรเลีย
รัฐบาลออสเตรเลียมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และรายงานการสูญเสียชีวิตทั้งพลเรือนและทหาร
“เราขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงวันที่ 28 กรกฎาคม และใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุด รวมถึงดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์”
“เราขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกฯ อันวาร์ในฐานะประธานอาเซียน รวมไปถึงการสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่ และมุ่งสู่การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนอย่างสันติและยั่งยืน” แถลงการณ์ระบุเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2025
เวียดนาม
ฝั่ม ธู แฮง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างไทย และกัมพูชา
“ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านและสมาชิกอาเซียน เวียดนามขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด งดเว้นการใช้กำลัง ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ ดำเนินการเจรจาต่อไป และแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติวิธีและเป็นที่พอใจ”
“ความพยายามเหล่านี้ควรอยู่บนหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) และด้วยจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอาเซียน เพื่อส่งเสริมการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาในภูมิภาคและทั่วโลก”
“เวียดนามจะยังคงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการส่งเสริมการเจรจาและการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและความร่วมมือตามแนวชายแดนโดยเร็ว ภายใต้จิตวิญญาณแห่งมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอาเซียน เพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่ายและของภูมิภาค” ฝั่ม ธู แฮง กล่าวในแถลงการณ์
สหประชาชาติ (UN)
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับรายงานการปะทะกันด้วยอาวุธที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างไทย และกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายงานการโจมตีทางอากาศและการระดมยุทโธปกรณ์หนักในพื้นที่ชายแดน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจและหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้ง
“ข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ได้ส่งผลให้เกิดการสูญเสียพลเรือนจำนวนมาก ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน และการพลัดถิ่นในทั้งสองฝั่งชายแดน ทั้งสองฝ่ายต้องปกป้องพลเรือนและอำนวยความสะดวกในการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม”
“เราขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับคืนสู่กรอบปฏิญญาร่วมที่ลงนาม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม โดยกลับมามุ่งมั่นในการหยุดยิง และดำเนินมาตรการลดความตึงเครียดและเสริมสร้างความเชื่อมั่น ตลอดจนการใช้กลไกการเจรจาทั้งหมดอย่างเต็มที่ เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับข้อพิพาทนี้ด้วยสันติวิธี”
“สหประชาชาติพร้อมที่จะสนับสนุนความพยายามทั้งหมดที่มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาค” แถลงการณ์ระบุ
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ขอเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้มีการยับยั้งและลดความรุนแรง ทุกฝ่ายต้องยึดมั่นในพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งหมายที่จะจำกัดความเสียหายต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียชีวิตพลเรือนและความเสียหายต่อวัตถุสิ่งของพลเรือน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต้องได้รับอนุญาตให้ได้รับการดูแลที่จำเป็น
ICRC ยังคงดำเนินการเจรจาทวิภาคีอย่างเป็นความลับกับทั้งสองฝ่าย พร้อมกับติดตามผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากการปะทะกันอย่างต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด เราพร้อมที่จะสนับสนุนสภากาชาดแห่งชาติและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
(Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP)



