การปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ไทยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ในพื้นที่ภูผาเหล็ก พลาญหินแปดก้อน
Spacebar พาไปดูแหล่งอาวุธยุทโธปกรณ์ของกัมพูชา
จีน
จีนคือผู้สนับสนุนหลักอันดับหนึ่งของกองทัพกัมพูชา Phnom Penh Post รายงานว่า 95% ของอาวุธยุทโธปกรณ์ของกัมพูชามาจากจีน โดยจัดหาอาวุธส่วนใหญ่ผ่านทางความช่วยเหลือและความร่วมมือทางทหาร รวมถึงเครื่องยิงจรวด SH-1, PHL-03, Type 90B, PHL-81ปืนใหญ่ SH-1 ขีปนาวุธ HQ-12 (KS-1C) และระบบป้องกันภัยทางอากาศ QW-3 ไปจนถึงเรือคอร์เวตต์ Type 056 เฮลิคอปเตอร์ Harbin Z-9
รัสเซีย
กองทัพกัมพูชามีอาวุธครบมือจากยุคโซเวียต เช่น เฮลิคอปเตอร์รุ่นลอกแบบจากโซเวียต MI-8AMT และ MI-171E ที่เป็นอาวุธมือสอลซื้อเมื่อปี 2021 รวมไปถึงรถทหาร KAMAZ-43114 และอุปกรณ์ทางทหารของรัสเซียที่เพิ่งจัดหามาได้ไม่นาน โดยเฉพาะเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของคลังอาวุธของกัมพูชา และยานรบทหารราบ BMP-3 ที่เป็นส่วนหนึ่งของดีลซื้ออาวุธ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2018 และยังมีอาวุธขนาดเล็กและปืนกลที่มีต้นกำเนิดจากโซเวียตหลายประเภท รวมถึงปืนพก Tokarev และ Makarov ปืนกล RPD และ PKM และปืนกลหนัก DShK
สาธารณรัฐเช็ก
เช็กถือว่าเป็นประเทศแรกๆ ที่มีรายงานการปรากฏอาวุธกับกัมพูชา (รวมทั้งจากเชโกสโลวาเกียเดิม) ในช่วงปี 1994 ไม่ว่าจะเป็นรถถัง T-55AM1, รถถังเบา OT-93 ในช่วงปี 2012 ก็มีรายงานว่ากัมพูชาใช้ปืนต่อสู้อากาศยานล้อ RM-70 รวมไปถึงการนำเข้าอาวุธปืนกลระดับสูงรวมไปถึงอาวุธปืนกลจาก CZ BREN และ CZ SCORPION และยังมีเครื่องบิน Aero L-39 Albatros
สาธารณรัฐเช็กเป็นแหล่งนำเข้าอาวุธหลักของกัมพูชาในปี 2023 รุ่นเฉพาะที่หน่วยบัญชาการกองกำลังพิเศษใช้ ได้แก่ ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ CZ P-10 C ส่วนปืนไรเฟิลจู่โจม vz. 58 ซึ่งออกแบบและผลิตในเชโกสโลวาเกีย ก็ถูกใช้โดยกองทัพกัมพูชาในจำนวนน้อยเช่นกัน
กองทัพกัมพูชาใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง RM-70 ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองซึ่งพัฒนาขึ้นในเชโกสโลวาเกีย ถือเป็นอาวุธปืนใหญ่ที่ทรงพลังที่สุดรุ่นหนึ่งของกัมพูชา และยังมีรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ BTR-60PB
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่กัมพูชา รวมถึงปืนไรเฟิล ปืนพก และกระสุน (5.56 มม. และ 9 มม.) จากผู้ผลิตในอินโดนีเซีย PT Pindad โดยเฉพาะปืนไรเฟิล SS2-V5 และปืนพก G2 Elite โดยส่งมอบเมื่อเดือนสิงหาคม 2024
เกาหลีใต้
กัมพูชาได้รับนำเข้าอาวุธปืนจากเกาหลีใต้ในช่วงปลายยุค 2000 โดยอุปกรณ์ปืนยอดนิยมของ K7, K1A และ K2 สำหรับหน่วยพิเศษทัพบกกัมพูชา ทหารพรานกัมพูชายังมีรถทหารเกาหลีใช้งาน อาทิ KIA KM450 4X4, และระบบยิงจรวด KIA K511
ความช่วยเหลือทางทหารครั้งแรกของเกาหลีใต้ต่อกัมพูชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2010, 2012 และ 2017 ซึ่งเป็นอาวุธเบาที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยมีรถบรรทุกทหาร รถยนต์ขนส่ง และเรือตรวจการณ์
โปแลนด์
มีรายงานว่าโปแลนด์ขายอาวุธให้กัมพูชาในช่วงปี 1994 เช่น ปืนต่อสู้อากาศยาน T-55AM2BP ป้อมปืนยานเกราะและปืนเล็กยาวรุ่นใหม่ของโปแลนด์อย่าง ปืนเล็ก FABRYKA BRONI ONYKS และยังมีรถถังโปแลนด์รุ่นปรับปรุงใหม่ T-55AM2BP อยู่ในคลังแสงของกองทัพกัมพูชา
ยูเครน
ภายหลังการแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต ยูเครนก็ได้ส่งมอบอาวุธให้กับเขมรตั้งแต่ช่วงปี 1994 อย่าง เฮลิคอปเตอร์ MI-8 และ MI-26 รถถังเบารุ่นเก่า รวมไปถึงระบบ L-39C ซึ่งถูกบรรจุให้เป็นยุทโธปกรณ์ในกองทัพอากาศเขมรด้วย โดยรวมแล้ว มีทั้งรถ T-55, BTR-60PB, BRDM-2 และรถทหารราบอีกมาก
เซอร์เบีย
ในปี 2010 กัมพูชาได้จัดหารถถังมือสองแบบ T-55A จากเซอร์เบียรวม 50 คัน เพื่อมาทดแทนของโซเวียตรุ่นเก่า โดยมีรายงานว่ามีเซอร์เบียยังให้เป้าปล่อยแสงเลเซอร์กับกัมพูชาด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นกัมพูชายังมีอาวุธยุทโธปกรณ์จากประเทศอื่นๆ อีกด้วย เช่น สาธารณรัฐสโลวาเกีย เวียดนาม ฝรั่งเศส อิตาลี และสหรัฐฯ โดยการซื้อขายส่วนมากเกิดขึ้นแบบไม่เป็นทางการ ในสมัยที่ผ่านมาจึงมีบางส่วนอาจเป็นอาวุธที่มาจากเส้นทางลับหรือผ่านประเทศที่ 3 อยู่
ยุทโธปกรณ์ที่มาจากประเทศยุโรปตะวันออกอย่างเช็ก โปแลนด์ ยูเครน และเซอร์เบีย ส่วนใหญ่เป็นยุทโธปกรณ์มือสอง หรือยุทโธปกรณ์จากคลังสำรองที่ล้าสมัยแล้ว จึงขายให้กัมพูชา
Photo by DAVID VAN DER VEEN / AFP
