สวีเดนและยูเครนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) เพื่อจัดทำข้อตกลงการจัดหาเครื่องบินขับไล่กริพเพน อี (Gripen E fighter jets) ให้ยูเครนมากถึง 150 ลำในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อุล์ฟ คริสเตอร์สัน นายกฯ สวีเดน และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนได้พบปะหารือกันที่เมืองลินเชอปิง ทางตอนใต้ของสวีเดน และเยี่ยมชมบริษัท ‘SAABb’ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบกริพเพน ‘JAS 39’, เครื่องบินสอดแนม, ระบบขีปนาวุธ, อาวุธต่อต้านรถถังสำหรับทหารราบ, และอุปกรณ์อื่นๆ
คริสเตอร์สันกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระยะยาวด้านการป้องกันภัยทางอากาศ รวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งมอบเครื่องบินรบ Gripen E ใหม่จำนวน 100-150 ลำ ซึ่งจะเป็นคำสั่งซื้อเครื่องบินส่งออกครั้งใหญ่ที่สุดของสวีเดน”
“เราตระหนักดีว่าเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล...นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวนาน 10-15 ปี ยูเครนที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพคือ สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของสวีเดน และเราจะยังคงมั่นใจว่ายูเครนจะสามารถตอบโต้การรุกรานของรัสเซียได้”
— คริสเตอร์สัน กล่าว
ความเป็นไปได้ในการจัดหากริพเพนให้กับยูเครนอยู่ระหว่างการพิจารณาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถูกระงับไว้เพื่อให้ยูเครนสามารถนำเครื่องบินรบ F-16 ที่ผลิตในอเมริกามาใช้งาน ซึ่งเริ่มใช้งานเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
“เราได้เริ่มดำเนินการจัดหากริพเพนให้กับยูเครนแล้ว และคาดว่าสัญญาในอนาคตจะทำให้เราสามารถจัดหาเครื่องบินรบประเภทนี้ได้ไม่น้อยกว่า 100 ลำ...ยูเครนตั้งเป้าที่จะรับและเริ่มใช้งานเครื่องบินรบกริพเพนของสวีเดนในปีหน้า สำหรับกองทัพของเรา กริพเพนคือสิ่งสำคัญที่สุด มันเป็นเรื่องของเงินและการซ้อมรบ”
— เซเลนสกี กล่าว
ขณะที่ คริสเตอร์สัน เผยว่า “ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ แต่คาดการณ์ว่าการผลิตและการส่งมอบเครื่องบินลำใหม่ลำแรกอาจใช้เวลา 3 ปี” และยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะส่งมอบกริพเพนรุ่นเก่าก่อนกว่านี้หรือไม่ แม้ว่าจะยังไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออกไปก็ตาม
“ข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่ายูเครนกำลังคิดถึงการวางแผนระยะยาวสำหรับกองทัพอากาศหลังสงคราม มากกว่าที่จะเป็นทางออกสำหรับความต้องการในการรบในทันที...ยูเครนมีเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ผลิตในสหรัฐฯ และ Mirage 2000 ที่ผลิตในฝรั่งเศสอยู่แล้ว สำหรับ Gripen E ในเชิงทฤษฎีแล้วน่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดกลางที่มีความสามารถสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด”
— จัสติน บรองค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามทางอากาศจากสถาบันป้องกันและรักษาความปลอดภัยของอังกฤษ (Royal United Services Institute) ในกรุงลอนดอน กล่าว
สื่อสวีเดนรายงานว่าเครื่องบินกริพเพนรุ่นนี้ถูกนำไปใช้ในการรบโดยตรงเป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังไทยส่งเครื่องบินขับไล่ไปประจำการในการเผชิญหน้ากับกัมพูชา
ก่อนหน้านั้น เครื่องบินเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อการตรวจการณ์ทางอากาศ โดยถูกส่งไปประจำการที่โปแลนด์ในปี 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของ NATO ในการลาดตระเวนน่านฟ้าของฝ่ายพันธมิตร นอกจากนี้ กริพเพนยังถูกใช้เพื่อบังคับใช้เขตห้ามบินของ NATO ในลิเบียในปี 2014
(Photo by : JONATHAN NACKSTRAND / AFP)


