ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี และพันธมิตรยุโรปเรียกร้องประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สนับสนุนเคียฟและกดดันให้เกิดการหยุดยิงเมื่อพบกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่อะแลสกาในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลว่าการประชุมอาจนำไปสู่ข้อตกลงที่บีบให้ยูเครนต้องยอมสูญเสียดินแดน
การโจมตีของรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการที่เซเลนสกีไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมที่แองเคอเรจในวันศุกร์ ทำให้เกิดความกังวลว่า ทรัมป์และปูตินอาจบรรลุข้อตกลงที่บังคับให้ยูเครนต้องสูญเสียดินแดนอย่างเจ็บปวด ข้อมูลจากสถาบันศึกษาสงครามแห่งสหรัฐระบุว่า กองทัพรัสเซียบุกครองพื้นที่ได้มากที่สุดในช่วง 24 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกในรอบกว่าปีเมื่อวันอังคาร
การประชุมของผู้นำยุโรปและทรัมป์
ขณะที่สงครามรุนแรงขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครน เซเลนสกีเดินทางไปเบอร์ลินและร่วมกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ซ ในการสนทนาออนไลน์กับผู้นำยุโรปอื่นๆ รวมถึงเลขาธิการนาโต้และสหภาพยุโรป เพื่อโต้ตอบกับทรัมป์และเรียกร้องให้มีจุดยืนร่วมต้านรัสเซีย
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวหลังการประชุมว่า ความประสงค์ของอเมริกาคือการได้มาซึ่งการหยุดยิง เซเลนสกีแสดงความหวังว่า จะการหยุดยิงทันที และเน้นว่า มาตรการคว่ำบาตรต้องดำเนินต่อไปและต้องเข้มงวดขึ้นหากรัสเซียไม่ยอมหยุดยิง
ความท้าทายในการเจรจา
แม้จะมีความหวัง แต่เซเลนสกีแสดงความสงสัยต่อเจตนาของมอสโก โดยกล่าวว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ซยืนยันว่า การหยุดยิงต้องมาก่อนการเจรจาสันติภาพใดๆ
ทรัมป์พยายามลดความคาดหวังเมื่อวันจันทร์ โดยกล่าวว่า คาดหวังว่าจะเป็นการสนทนาเชิงสร้างสรรค์ และกล่าวว่าในที่สุด ‘จะมีการแลกเปลี่ยนเรื่องดินแดน’ แต่ไม่ขยายความต่อว่ามีกรอบอย่างไร
ความคืบหน้าทางการทหาร
แม้จะมีบรรยากาศการทูตที่คึกคัก แต่การโจมตีของรัสเซียในภาคตะวันออกยูเครนกลับเพิ่มขึ้นและเพิ่มการยึดครองดินแดน การวิเคราะห์ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กองทัพรัสเซียยึดครองหรืออ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ 110 ตารางกิโลเมตรในวันที่ 12 สิงหาคม เป็นการบุกครองมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2024
ทหารยูเครนในคราโมทอร์สก์ เมืองทางตะวันออกที่ห่างจากแนวหน้าประมาณ 20 กิโลเมตร ไม่คาดหวังต่อผลการประชุมระหว่างทรัมป์และปูติน อาร์เต็ม ทหารวัย 30 ปี กล่าวว่าสงครามน่าจะดำเนินต่อไปอย่าวยาวนาน
การประชุมที่อะแลสกาจะเป็นจุดเริ่มต้นของสันติภาพหรือเพียงแค่การเล่นเกมการเมืองระหว่างมหาอำนาจ?