ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะจัดการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าครั้งสำคัญกับ ‘ผู้แทนของประเทศใหญ่ที่ได้รับการเคารพนับถืออย่างสูง’
ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ว่า “การแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่จะมีขึ้นในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ากำลังอ้างอิงถึงประเทศใด
สำนักข่าว New York Times รายงานว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับอังกฤษ โดยอ้างแหล่งข่าว 3 รายที่ทราบเกี่ยวกับแผนดังกล่าว แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดก็ตาม ขณะเดียวกัน เงินปอนด์ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากรายงานดังกล่าว
ทรัมป์เผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองในการหาทางออกสำหรับแผนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ สู่ระดับสูงสุดในรอบศตวรรษ โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันไม่พอใจกับการบริหารเศรษฐกิจของเขา หลังจากทรัมป์โพสต์ก็พบว่า ดัชนี S&P 500 futures พุ่งขึ้นถึง 0.5%
รายละเอียดของการประกาศดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจนในทันที แต่ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่านี่จะเป็นการประกาศครั้งแรกของหลายๆ ครั้ง เนื่องจากเขาต้องการจะทลายอุปสรรคต่อการส่งออกของสหรัฐฯ และสงบความปั่นป่วนในตลาดที่เกิดจากขอบเขตที่กว้างของภาษีของเขา
ข้อตกลงใดๆ ก็ตามย่อมมาพร้อมกับคำเตือนที่สำคัญ ข้อตกลงการค้าเต็มรูปแบบมักใช้เวลาหลายปีในการเจรจา และการเจรจากับหลายประเทศนั้นมุ่งเน้นไปที่ข้อตกลงเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาและความตั้งใจ ซึ่งอาจเหลือรายละเอียดมากมายที่รวมอยู่ในข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุม ซึ่งจะต้องเจรจาในภายหลัง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์กำลังดำเนินการเจรจาพร้อมกันกับหลายประเทศ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระงับการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่กับประเทศอื่นๆ มากกว่า 50 แห่ง (ยกเว้นจีน) ที่มีการขาดดุลการค้าจำนวนมาก
กรอบข้อตกลง
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาเต็มใจที่จะเจรจาอัตราภาษีต่ำกว่าอัตราพื้นฐาน 10% ที่เขาใช้กับเกือบทุกประเทศในช่วงต้นปีนี้หรือไม่
อังกฤษและสหรัฐฯ ได้มีการหารืออย่างเข้มข้นเกี่ยวกับข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่จะลดผลกระทบของภาษีบางประเภท โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ของอังกฤษอยู่ที่กรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาเงื่อนไขในสัปดาห์นี้
กระทรวงธุรกิจและการค้าของอังกฤษกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า “การเจรจายังคงดำเนินอยู่” แต่จะไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดของการหารือ หรือกำหนดกรอบเวลาใดๆ “เราจะยังคงใช้แนวทางที่สงบและมั่นคงในการเจรจา และมุ่งหาข้อยุติเพื่อช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อธุรกิจและผู้บริโภคในอังกฤษ” แถลงการณ์ระบุ
เมื่อวันอังคาร (6 พ.ค.) ที่ผ่านมา อังกฤษประกาศข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ที่สำคัญกับอินเดีย ซึ่งถือเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดที่อังกฤษได้ลงนามนับตั้งแต่ออกจากสหภาพยุโรป โดยมุ่งหวังที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นๆ ท่ามกลางผลกระทบจากภาษีศุลกากรของทรัมป์
ประเทศอื่นๆ ที่มีการหารือในระดับสูง ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย และอิสราเอล อย่างไรก็ดี ทรัมป์เองก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เจรจาของญี่ปุ่นด้วยการเข้าร่วมการเจรจาด้วยตัวเองเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่รองประธานาธิบดี เจ.ดี.แวนซ์ เดินทางไปยังอินเดียเพื่อหารือเกี่ยวกับการค้า นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาการค้าด้วย
แม้ว่าการประกาศใดๆ ก็ตามมีแนวโน้มที่จะทำให้ตลาดคึกคัก แต่นักลงทุนจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าทรัมป์ยินดีที่จะถอนตัวจากภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 2 เมษายนมากเพียงใด
การเจรจากับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสก็อตต์ เบสเซนต์ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จามีสัน กรีร์ จะเข้าพบกับรองนายกฯ จีน เหอหลี่เฟิง ที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเรื่องการค้า แม้เบสเซนต์จะบอกว่าการหารือครั้งนี้เป็นเรื่องของการลดความตึงเครียดมากกว่าจะเป็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่กว่านั่นเอง
(Photo by Anna Moneymaker / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)