พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศของไทย จะเดินทางไปยังประเทศสวีเดนในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคมนี้ เพื่อลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์รุ่น ‘Saab Gripen E/F’ จำนวน 4 ลำ โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีด้วย
ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา มีงบประมาณ 19,500 ล้านบาท สำหรับเครื่องบินและระบบที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม The Nation รายงานว่า ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงแพ็คเกจชดเชยด้านกลาโหมและการถ่ายทอดเทคโนโลยีมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าต้นทุนเครื่องบินมาก
นิตยสาร FW รายงานว่า กองทัพอากาศไทยได้สรุปว่าข้อตกลงชดเชยนี้ประกอบด้วยการชดเชยโดยตรง 7 รายการที่เกี่ยวข้องกับกลาโหม และการชดเชยทางอ้อม 7 รายการ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจในวงกว้าง
การชดเชยโดยตรงประกอบด้วย :
- การจัดตั้งสำนักงานวิจัยและพัฒนาของ ‘Saab’ ในประเทศไทย
- การโอนสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Link-T tactical data link)
- ความสามารถในท้องถิ่นในการพัฒนา ‘Link-T’
- ศักยภาพในการพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีของเครื่องบิน
- การรวมบริษัทไทยในห่วงโซ่อุปทานของ ‘Gripen E/F’
- การสร้างขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงระดับชาติภายในกองทัพอากาศไทย
- การเพิ่มขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงที่กองบิน 1
การชดเชยทางอ้อม ซึ่งมีเป้าหมายที่ภาคพลเรือน ประกอบด้วย :
- การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของสวีเดนในประเทศไทย
- การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม
- การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร
- การสนับสนุนด้านการศึกษาและการฝึกอบรมทักษะอาชีพ
- เงินทุนสำหรับความร่วมมือด้านการศึกษาและการวิจัย
- การฝึกอบรมภาษาอังกฤษกับสถาบัน ‘British Council’
FlightGlobal รายงานว่า แพ็คเกจนี้จะรวมถึงการอัพเกรดเครื่องบินเตือนภัยและควบคุมทางอากาศ ‘Saab 340B Erieye’ ทั้ง 2 ลำของประเทศไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบัญชาการและควบคุม นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ซ่อมแซม บำรุงรักษา และยกเครื่อง ‘Gripen’ ในประเทศ ซึ่งคาดว่าบริษัทไทยจะผลิตส่วนประกอบต่างๆ เช่น ยาง ลูกปืน แคลมป์ และชิ้นส่วนโครงเครื่องบิน ให้กับห่วงโซ่อุปทานของ ‘Gripen E/F’
(Photo by PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP)