อีลอน มัสก์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร SpaceX เตรียมนำบริษัทอวกาศชั้นนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น หลังผ่านไป 22 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยคาดว่าจะเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์การเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO)
การระดมทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์
ตามรายงานจาก Bloomberg และ PitchBook การ IPO ของ SpaceX อาจระดมทุนได้มากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งแรก และสูงกว่าเงินทุนรวม 10 พันล้านดอลลาร์ที่บริษัทระดมได้ตั้งแต่ก่อตั้ง
การระดมทุนครั้งนี้จะยกระดับมูลค่า SpaceX ให้ถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยและกองทุนต่างๆ เข้ามาลงทุนในบริษัทที่ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นหลักคือ มัสก์ และกองทุนลงทุนหลายแห่ง รวมถึง Alphabet บริษัทแม่ของ Google
อุตสาหกรรมอวกาศเติบโตก้าวกระโดด
การตัดสินใจ IPO เกิดขึ้นท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งมีมูลค่า 630 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะขยายตัวเป็น 3 เท่าภายในปี 2035 ตามข้อมูลจาก McKinsey และ World Economic Forum
SpaceX ครองตลาดการส่งจรวดด้วยเทคโนโลยีจรวดนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และเป็นเจ้าของกลุ่มดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดผ่าน Starlink ทำให้บริษัทมีจุดยืนพิเศษในตลาด
เป้าหมายอาณานิคมดาวอังคาร
แมทธิว เคนเนดี จาก Renaissance Capital กล่าวว่า "ธุรกิจนี้ต้องการเงินลงทุนมาก SpaceX ไม่เคยมีปัญหาในการระดมทุนจากตลาดเอกชน แต่ตลาดสาธารณะมีขนาดใหญ่กว่า สภาพคล่องสำคัญมากสำหรับการซื้อกิจการ"
การระดมทุนจะช่วยสนับสนุนโครงการต่างๆ ของ SpaceX รวมถึงการพัฒนา Starship จรวดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาสำหรับภารกิจดวงจันทร์และดาวอังคาร ตลอดจนแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศสำหรับปัญญาประดิษฐ์
ความท้าทายของการเป็นบริษัทมหาชน
อย่างไรก็ตาม การเข้าจดทะเบียนจะต้องแลกมาด้วยความโปร่งใสมากขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลรายได้ และอาจเพิ่มแรงกดดันในการสร้างกำไร
เมสัน เพ็ค ศาสตราจารย์วิศวกรรมอวกาศจาก Cornell University กังวลว่า "สิ่งนี้อาจทำให้ SpaceX ระมัดระวังมากขึ้นในระยะใกล้" และอาจส่งผลต่อแนวทางการทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นจุดแข็งของบริษัท
ขณะที่ เคลย์ตัน สโวป จาก Center for Strategic and International Studies มองว่าความเสี่ยงนี้คุ้มค่า เพราะวิสัยทัศน์ของ มัสก์ คือสิ่งที่ทำให้ SpaceX ประสบความสำเร็จในฐานะธุรกิจ
