ทางการไทยและสิงคโปร์กำลังตรวจสอบ Prince Group กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชา หลังสหรัฐฯ และอังกฤษใช้มาตรการคว่ำบาตรประธานบริษัทจากข้อกล่าวหาฉ้อโกงและฟอกเงิน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้าง Bangkok Post ว่า พล.ต.ท. สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเผยว่า เจ้าหน้าที่ไทยจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อพิจารณากระบวนการยึดทรัพย์สินและกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Prince Holding Group
ขณะที่ตำรวจสิงคโปร์กำลังตรวจสอบคดีนี้และติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในประเทศอื่นๆ
ทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาดำเนินการ “อาณาจักรฉ้อโกงที่กำลังขยายตัว” กับ เฉินจื้อ ประธาน Prince Group เมื่อวันอังคาร จนนำมาสู่การยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรัฐบาลอังกฤษเผยว่า ทรัพย์สิน 19 รายการที่เกี่ยวข้องกับเฉินจื้อ รวมทั้งอาคารสำนักงานมูลค่า 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแมนชั่นทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอนมูลค่า 12 ล้านปอนด์ถูกยึด
เฉินและเพื่อนร่วมงานมีส่วนร่วมในการจัดตั้งสำนักงานครอบครัวในสิงคโปร์ในปี 2018 ซึ่งอ้างว่าได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน ก่อนหน้านี้หน่วยงานรัฐบาลระบุว่ากำลังตรวจสอบว่ามีการละเมิดข้อกำหนดใดๆ หรือไม่
ข้อกล่าวหาต่อบริษัทดังกล่าวกระตุ้นให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ในสิงคโปร์ทบทวนความสัมพันธ์ทางการเงินกับศูนย์กลางธุรกิจแห่งนี้
รายงานของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ระบุว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนของไทยจะพยายามตรวจสอบว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดมานั้นเชื่อมโยงกับความผิดที่เกิดขึ้นภายในประเทศหรือไม่ หากสามารถเชื่อมโยงกันได้ รัฐบาลจะขอให้ส่งคืนและยึดทรัพย์สินดังกล่าวผ่านการประสานงานทางการทูตและตามขั้นตอนทางกฎหมายระหว่างประเทศ
Bangkok Post รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมของไทยอาจดำเนินคดีอาญาฐานสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน และว่า องค์กรอาชญากรรมที่ถูกกล่าวหานี้ถูกกล่าวหาโดยสหรัฐฯ ว่าดำเนินธุรกิจฉ้อโกงซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในกัมพูชาโดยบังคับใช้แรงงานภายใต้การกำกับดูแลของเฉิน



