รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเมื่อวันพุธ (6 ส.ค.) ว่า จะเริ่มใช้มาตรการปราบปรามพิเศษ 100 วัน เพื่อจัดการกับ ‘การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม’ ของคนขับแท็กซี่ต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ
มาตรการนี้จะมุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมแท็กซี่ผิดกฎหมาย เช่น การเรียกเก็บเงินเกินราคาปกติ ขอเก็บเงินเพิ่มในเวลากลางคืน การเรียกทิป การปฏิเสธ ‘ไม่รับ’ ผู้โดยสารในระยะทางสั้นๆ และความไม่สะดวกอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักพบเจอเมื่อเรียกแท็กซี่ โดยจะมุ่งเน้นไปที่สนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโซล รวมถึงย่านช้อปปิ้งเมียงดง
“มาตรการ ‘ปราบปราม 100 วัน’ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาพฤติกรรมแท็กซี่ผิดกฎหมายก่อนถึงฤดูกาลท่องเที่ยวสูงสุดในเกาหลีใต้” ยอ จาง-ควอน หัวหน้าสำนักงานขนส่งของรัฐบาลกรุงโซลกล่าว
โครงการริเริ่มนี้ดำเนินการปราบปรามมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 สืบเนื่องจากความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงรายงานการคิดค่าบริการเกินจริง 139 กรณีในสนามบินใกล้กรุงโซล และ 109 กรณีของคนขับแท็กซี่ที่ปฏิเสธการรับผู้โดยสารต่างชาติสำหรับการเดินทางระยะสั้น ซึ่งรวบรวมจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แม้จะมีมาตรการเหล่านี้ แต่คนขับแท็กซี่ก็ยังคงทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่อไป โดยย้ายสถานที่ไปเรื่อยๆ เพื่อหลบเลี่ยงตำรวจ
นักท่องเที่ยวสามารถแจ้งปัญหาเกี่ยวกับแท็กซี่ได้ผ่านแบบฟอร์มสำรวจขนาดเท่าบัตร ซึ่งมีให้บริการที่สนามบินอินชอนและกิมโป บัตรเหล่านี้จะมีรหัสคิวอาร์โค้ดเชื่อมไปยังแบบสอบถามออนไลน์ และมีให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น
สำหรับในกรุงโซล ค่าโดยสารพื้นฐานสำหรับการโดยสารแท็กซี่มาตรฐานเที่ยวเดียว ระยะทางไม่เกิน 1.6 กิโลเมตร อยู่ที่ 4,800 วอน (ราว 110 บาท) และจะคิดค่าบริการเพิ่มอีก 100 วอน (ราว 2 บาท) สำหรับทุกการเดินทาง 131 กิโลเมตร ส่วนค่าโดยสารกลางคืน ค่าโดยสารพื้นฐานจะอยู่ระหว่าง 5,800-6,700 วอน (ราว 135-155 บาท) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเดินทาง
Photo by : Shutterstock / Ki young