อินเดียไม่สนทรัมป์ขึ้นภาษี! เดินหน้าร่วมมือ ‘เชิงยุทธศาสตร์’ กับรัสเซีย

8 ส.ค. 2568 - 06:02

  • รัสเซียและอินเดียย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อ ‘ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์’ ในการเจรจาด้านความมั่นคงทวิภาคีที่กรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25%

  • “เรามุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่ที่ยุติธรรมและยั่งยืนยิ่งขึ้น รับรองอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และร่วมกันต่อสู้กับความท้าทายและภัยคุกคามสมัยใหม่” เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย กล่าว

  • ก่อนหน้านี้ ในปี 2018 อินเดียได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 แสนล้านบาท) กับรัสเซียเพื่อซื้อระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศพิสัยไกล ‘S-400 Triumf’ จำนวน 5 ระบบ

อินเดียไม่สนทรัมป์ขึ้นภาษี! เดินหน้าร่วมมือ ‘เชิงยุทธศาสตร์’ กับรัสเซีย

รัสเซียและอินเดียย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อ ‘ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์’ ในการเจรจาด้านความมั่นคงทวิภาคีที่กรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25% เนื่องจากการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย 

สำนักข่าว Interfax ของรัสเซียอ้างอิงคำพูดของ อจิต โดวาล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอินเดีย ที่กล่าวว่า “อินเดียตั้งตารอการมาเยือนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ภายในสิ้นปีนี้” 

ในการประชุมของโดวาลกับ เซอร์เก ชอยกู เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ 

ต่อมาในวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) โดวาลได้พบกับปูตินที่รัสเซีย โดยมี ชอยกู เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย, ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของเครมลิน, และวิเนย์ กูมาร์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย แต่สภาเครมลินไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่พวกเขาหารือกัน 

อย่างไรก็ดี การที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะถดถอยครั้งร้ายแรงที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอินเดียนับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งคุกคามการเข้าถึงตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย 

“เรามุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่ที่ยุติธรรมและยั่งยืนยิ่งขึ้น รับรองอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และร่วมกันต่อสู้กับความท้าทายและภัยคุกคามสมัยใหม่” ชอยกู กล่าว 

ขณะที่ฝั่งโดวาล กล่าวว่า “ตอนนี้เราได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง นับเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างประเทศของเรา” 

อินเดียและจีนกลายเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบทางทะเลรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งกระตุ้นให้ชาติตะวันตกพยายามกดดันเศรษฐกิจของรัสเซีย 

ทรัมป์เคยขู่ว่าจะใช้มาตรการต่างๆ กับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ก่อนที่เขาจะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอินเดียใหม่ ซึ่งทำให้อัตราภาษีที่อินเดียต้องจ่ายให้สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 50% 

เมื่อวันอังคาร (5 ส.ค.) รัสเซียกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าใช้แรงกดดันทางการค้าที่ผิดกฎหมายต่ออินเดีย  โดยกล่าวว่า “อินเดียมีสิทธิ์ที่จะค้าขายกับใครก็ได้” 

เจ้าหน้าที่อินเดียที่ทราบเรื่องนี้กล่าวว่า “โดวาลจะหารือเกี่ยวกับการซื้อน้ำมันดิบของรัสเซียระหว่างการเยือนกรุงมอสโก นอกจากนี้ เขายังคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศของอินเดียกับรัสเซียอีกด้วย” 

ก่อนหน้านี้ ในปี 2018 อินเดียได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 แสนล้านบาท) กับรัสเซียเพื่อซื้อระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศพิสัยไกล ‘S-400 Triumf’ จำนวน 5 ระบบ ซึ่งอินเดียระบุว่า “จำเป็นต้องใช้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีน” 

แต่การส่งมอบระบบเหล่านี้ล่าช้าหลายครั้ง ทั้งนี้ คาดว่ามอสโกจะส่งมอบระบบ S-400 สองชุดสุดท้ายให้กับอินเดียในปี 2026-2027 

อินเดียเคยพึ่งพาการนำเข้าอาวุธจากรัสเซียเป็นหลัก แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะลดการนำเข้าลงอย่างมากและหันไปหาผู้ซื้อจากตะวันตกแทน 

(Photo by Alexander Zemlianichenko / POOL / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์