ความนิยมเจ้าหญิงไอโกะพุ่งจุดกระแสเรียกร้องญี่ปุ่นแก้กฎหมายให้ผู้หญิงครองราชย์

7 ธ.ค. 2568 - 10:06

  •   ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีจักรพรรดิหญิงถึง 8 พระองค์ ครั้งล่าสุดที่ครองราชย์จนถึงปี 1770

  • กฎมณเฑียรบาลปี 1947 ไม่อนุญาตให้พระธิดาของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันสืบทอดราชบัลลังก์ต่อ

  • ผู้สนับสนุนเจ้าหญิงไอโกะหวังว่าสภานิติบัญญัติของญี่ปุ่นจะแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีจักรพรรดิหญิงได้

ความนิยมเจ้าหญิงไอโกะพุ่งจุดกระแสเรียกร้องญี่ปุ่นแก้กฎหมายให้ผู้หญิงครองราชย์

เจ้าหญิงไอโกะผู้เป็นที่รักของชาวญี่ปุ่นมักได้รับเสียงเชียร์ไม่ต่างจากดาราดัง

ระหว่างการเสด็จเยือนนางาซากิพร้อมกับจักรพรรดินารุฮิโตะและจักรพรรดินีมาซาโกะ เสียงเรียกชื่อของเจ้าหญิงที่ผู้คนต่างร้องเรียกตามท้องถนนกลบเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีต่อพระบิดาและพระมารดาของพระองค์

เนื่องจากเจ้าหญิงไอโกะเพิ่งมีพระชนมายุครบ 24 พรรษาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้สนับสนุนผู้หญิงขึ้นครองราชย์จึงต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการสืบราชสันตติวงศ์ของญี่ปุ่นที่ห้ามมิให้เจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดาองค์เดียวของจักรพรรดินารุฮิโตะขึ้นครองราชย์

นอกเหนือไปจากความล้มเหลวในการอภิปรายเรื่องกฎการสืบราชสันตติวงศ์ที่ต้องหยุดชะงักลงแล้ว เรื่องนี้ยังถือเป็นเรื่องเร่งด่วนสุดๆ ของญี่ปุ่น เนื่องจากสถาบันกษัตริย์ที่กำลังหดตัวของญี่ปุ่นกำลังใกล้จะล่มสลาย ขณะนี้มีเพียงหลานชายของจักรพรรดินารุฮิโตะเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่มีสิทธิ์สืบสันตติวงศ์ต่อ

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ญี่ปุ่นควรยกเลิกการห้ามสตรีสืบสันตติวงศ์ก่อนที่ราชวงศ์เบญจมาศจะล่มสลาย แต่สมาชิกรัฐสภาฝ่ายอนุรักษนิยม รวมถึงนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ คัดค้านการเปลี่ยนแปลงนี้

เจ้าหญิงไอโกะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดตัวในฐานะราชวงศ์ผู้ใหญ่เมื่อปี 2021 ซึ่งเธอสร้างความประทับใจให้กับสาธารณชนด้วยสติปัญญา อัธยาศัยดี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และอารมณ์ขัน

เสียงสนับสนุนให้เจ้าหญิงไอโกะขึ้นครองราชย์ในอนาคตเพิ่มขึ้นหลังจากการเสด็จเยือนลาวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะตัวแทนของจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ในระหว่างการเยือนเป็นเวลา 6 วัน เจ้าหญิงไอโกะได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาว เยี่ยมชมสถานที่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และพบปะกับชาวลาว

และการเสด็จเยือนนางาซากิและโอกินาว่าพร้อมกับจักรพรรดิและจักรพรรดินีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เจ้าหญิงไอโกะได้เดินตามรอยพระบิดา ซึ่งให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการถ่ายทอดโศกนาฏกรรมสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กับคนรุ่นหลัง

“ฉันสนับสนุนให้เจ้าหญิงไอโกะขึ้นครองราชย์มาโดยตลอด” เซ็ตสึโกะ มัตสึโอะ วัย 82 ปี ผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู ซึ่งเดินทางมายังสวนสันติภาพนางาซากิเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนกำหนดการมาถึงของเจ้าหญิงไอโกะและจักรพรรดิและจักรพรรดินี “ฉันชอบทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ โดยเฉพาะรอยยิ้มของเธอ... ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจมาก”

มาริ มาฮิระ พนักงานออฟฟิศวัย 58 ปี ซึ่งรอให้กำลังใจเจ้าหญิงไอโกะที่นางาซากิเผยว่า เธอได้เห็นเจ้าหญิงไอโกะเติบโต และ “ตอนนี้เราอยากเห็นเธอขึ้นเป็นกษัตริย์ในอนาคต”

เจ้าหญิงไอโกะทรงยิ้มระหว่างงานเลี้ยงสวนฤดูใบไม้ผลิที่สวนหลวงพระราชวังอากาซากะในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2025 (Photo by Shuji Kajiyama / POOL / AFP)
เจ้าหญิงไอโกะทรงยิ้มระหว่างงานเลี้ยงสวนฤดูใบไม้ผลิที่สวนหลวงพระราชวังอากาซากะในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2025 (Photo by Shuji Kajiyama / POOL / AFP)

แรงกดดันให้แก้กฎหมาย

ความนิยมในตัวของเจ้าหญิงไอโกะจุดชนวนให้ชาวญี่ปุ่นบางคนกดดันให้สภาแก้กฎหมาย

โยชิโนริ โคบายาชิ นักเขียนการ์ตูนรายหนึ่ง ได้เขียนหนังสือการ์ตูนที่ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายเพื่อให้เจ้าหญิงไอโกะได้เป็นกษัตริย์ ซึ่งผู้สนับสนุนยังคงส่งหนังสือเหล่านี้ไปยังสมาชิกรัฐสภาเพื่อสร้างความตระหนักรู้และเพื่อให้รับการสนับสนุนในประเด็นนี้

บางคนสร้างช่องยูทูบและแจกแผ่นพับเพื่อดึงความสนใจของสาธารณชนเกี่ยวกับประเด็นนี้

อิคุโกะ ยามาซากิ วัย 62 ปี ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสนับสนุนการสืบราชสันตติวงศ์ของทายาทองค์แรกของจักรพรรดิโดยไม่คำนึงถึงเพศ เธอกล่าวว่า การที่ไม่มีเจ้าหญิงไอโกะเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ และการยืนกรานที่จะให้มีกษัตริย์ที่เป็นชายล้วน จะทำให้สถาบันกษัตริย์ล่มสลาย

“ระบบการสืบราชสันตติวงศ์สะท้อนแนวคิดแบบญี่ปุ่นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเพศสภาพ” ยามาซากิกล่าว “ฉันคาดว่าการมีกษัตริย์ที่เป็นผู้หญิงจะช่วยยกระดับสถานะของสตรีในญี่ปุ่นได้อย่างมาก”

ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2010 ขณะเจ้าหญิงไอโกะทรงใช้พู่กันเขียนตัวอักษร “เสือ” ระหว่างทรงฝึกเขียนพู่กัน ณ พระราชวังโทงุ ในกรุงโตเกียว (Photo by IMPERIAL HOUSEHOLD AGENCY / IMPERIAL HOUSEHOLD AGENCY / AFP)
ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2010 ขณะเจ้าหญิงไอโกะทรงใช้พู่กันเขียนตัวอักษร “เสือ” ระหว่างทรงฝึกเขียนพู่กัน ณ พระราชวังโทงุ ในกรุงโตเกียว (Photo by IMPERIAL HOUSEHOLD AGENCY / IMPERIAL HOUSEHOLD AGENCY / AFP)

เจ้าหญิงไอโกะประสูติเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2001

หลังจากให้กำเนิดเจ้าหญิงไอโกะได้ไม่นาน จักรพรรดินีมาซาโกะ อดีตนักการทูตผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้เป็นมารดา ก็เกิดภาวะทางจิตจากความเครียด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากคำวิจารณ์ที่ว่าไม่มีทายาทชาย ซึ่งจักรพรรดินียังคงฟื้นตัวจากภาวะดังกล่าวอยู่

เจ้าหญิงไอโกะเป็นที่รู้จักในฐานะเด็กที่ฉลาดหลักแหลม และในฐานะแฟนซูโม่ เธอสามารถจดจำชื่อเต็มๆ ของนักมวยปล้ำได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงไอโกะต้องเผชิญกับความยุ่งยากด้วย สมัยเป็นนักเรียนประถม เจ้าหญิงขาดเรียนไปช่วงหนึ่งเพราะถูกกลั่นแกล้ง พอเป็นวัยรุ่น ก็ดูผอมมากจนขาดเรียนไปหนึ่งเดือน

ปี 2024 เจ้าหญิงไอโกะสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกะกุชูอิน ซึ่งเป็นที่ที่พระบิดาของเจ้าหญิงและเชื้อพระวงศ์ท่านอื่นๆ ศึกษาอยู่ ตั้งแต่นั้นมา เจ้าหญิงไอโกะได้เข้าร่วมในพิธีการและพิธีกรรมในวัง พร้อมกับทำงานที่สภากาชาด ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เจ้าหญิงไอโกะโปรดเดินเล่นกับพระบิดาพระมารดา และเล่นวอลเลย์บอล เทนนิส และแบดมินตันกับเจ้าหน้าที่ในวัง

กฎมณเฑียรบาลปี 1974 ของญี่ปุ่นอนุญาตให้มีการสืบราชสันตติวงศ์เฉพาะเชื้อพระวงศ์ชายเท่านั้น และบังคับให้ราชวงศ์หญิงที่แต่งงานกับสามัญชนต้องสละสถานะราชวงศ์

ภาพถ่ายสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นในโอกาสวันปีใหม่ที่พระราชวังอิมพีเรียลเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2017 (Photo by Imperial Household Agency)
ภาพถ่ายสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นในโอกาสวันปีใหม่ที่พระราชวังอิมพีเรียลเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2017 (Photo by Imperial Household Agency)

สมาชิกราชวงศ์ลดลงอย่างรวดเร็ว

ราชวงศ์ที่กำลังลดน้อยลงอย่างรวดเร็วมีสมาชิกเพียง 16 คน ลดลงจาก 30 คนเมื่อสามทศวรรษก่อน โดยทุกพระองค์เป็นผู้ใหญ่แล้ว

จักรพรรดินารุฮิโตะมีรัชทายาทชายที่อายุน้อยกว่าเพียง 2 พระองค์คือ เจ้าชายอากิชิโนะ พระอนุชาวัย 60 ปี และเจ้าชายฮิซาฮิโตะ พระโอรสวัย 19 ปีของเจ้าชายอากิชิโนะ ส่วนเจ้าชายฮิตาชิ พระอนุชาของอดีตจักรพรรดิอากิฮิโตะ และรัชทายาทลำดับที่สามในการสืบราชบัลลังก์ มีพระชนมายุ 90 พรรษา

เจ้าชายอากิชิโนะทรงยอมรับถึงปัญหาสมาชิกราชวงศ์ที่ชราภาพและหดตัวลง “แต่ภายใต้ระบบปัจจุบัน เราไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้คือ ปรับลดหน้าที่อย่างเป็นทางการของเราลง”

เมื่อปีที่แล้ว มกุฎราชกุมารอากิชิโนะตรัสว่า สมาชิกราชวงศ์คือ “มนุษย์” ที่ชีวิตได้รับผลกระทบจากการหารือครั้งนี้ ซึ่งเป็นความเห็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนแต่หาได้ยาก พระองค์ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ในวังจะรับฟังความคิดเห็นของพระองค์อย่างจริงใจ

ก่อนหน้านี้ เจ้าหญิงไอโกะเคยตรัสไว้ว่า พระองค์ทราบถึงจำนวนราชวงศ์ที่ลดลง แต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบนี้ได้ “ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ข้าพเจ้าหวังว่าจะปฏิบัติหน้าที่ราชการทุกประการอย่างจริงใจ และช่วยเหลือจักรพรรดิและจักรพรรดินี รวมถึงสมาชิกราชวงศ์องค์อื่นๆ”

การขาดแคลนผู้สืบทอดตำแหน่งชายเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับสถาบันกษัตริย์ ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนระบุว่าดำเนินมายาวนานถึง 1,500 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ของญี่ปุ่นเกี่ยวกับประชากรสูงอายุและหดตัวลงอย่างรวดเร็ว

“ผมคิดว่าสถานการณ์อยู่ในภาวะวิกฤตแล้ว” ฮิเดยะ คาวานิชิ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนาโกยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสถาบันกษัตริย์กล่าว อนาคตของสถาบันกษัตริย์ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าชายฮิซาฮิโตะและภรรยาในอนาคตของเขาในการที่จะให้กำเนิดบุตรชาย “ใครอยากแต่งงานกับเขา ถ้าใครต้องการ เธอจะต้องทนกับแรงกดดันมหาศาลในการให้กำเนิดทายาทชาย ขณะเดียวกันก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความสามารถเหนือมนุษย์”

ชินโกะ ฮาเคตะ อดีตผู้อำนวยการสำนักพระราชวังอิมพีเรียลเขียนไว้ในบทความหนังสือพิมพ์โยมิอุริในปีนี้ว่า เจ้าชายฮิซาฮิโตะต้องแบกรับภาระและชะตากรรมของราชวงศ์ด้วยตัวเขาเอง “คำถามพื้นฐานไม่ใช่ว่าจะอนุญาตให้มีลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ชายหรือหญิง แต่คือจะรักษาสถาบันกษัตริย์ไว้ได้อย่างไร”

จักรพรรดินีโกะ-ซากุระมาจิ กษัตริย์องค์ที่ 117 ของญี่ปุ่น (Photo by Wikipedia/ 三英舎 (San'ei-sha) - "御歴代百廿一天皇御尊影" / Public Domain)
จักรพรรดินีโกะ-ซากุระมาจิ กษัตริย์องค์ที่ 117 ของญี่ปุ่น (Photo by Wikipedia/ 三英舎 (San'ei-sha) - "御歴代百廿一天皇御尊影" / Public Domain)

ญี่ปุ่นเคยมีจักรพรรดิหญิง 8 พระองค์

ญี่ปุ่นมีจักรพรรดิชายเป็นจักรพรรดิตามประเพณี แต่ก็มีจักรพรรดิหญิงถึง 8 พระองค์ พระองค์สุดท้ายคือ โกะซากุระมาจิ ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี 1762-1770

กฎการสืบราชสันตติวงศ์เฉพาะจักรพรรดิชายกลายเป็นกฎหมายเมื่อปี 1889 และสืบทอดต่อไปยังมณเฑียรบาลหลังสงครามปี 1947

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ระบบนี้เคยได้ผลมาก่อนโดยอาศัยความช่วยเหลือของพระสนม ซึ่งจนกระทั่งประมาณ 100 ปีก่อน ได้ให้กำเนิดจักรพรรดิครึ่งหนึ่งในอดีต

รัฐบาลญี่ปุ่นเคยเสนอให้มีจักรพรรดิหญิงในปี 2005 แต่การถือกำเนิดของเจ้าชายฮิซาฮิโตะทำให้กลุ่มชาตินิยมยกเลิกข้อเสนอนี้

ปี 2022 คณะผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอนุรักษนิยมส่วนใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลคงการสืบราชสันตติวงศ์ฝ่ายชายไว้ ขณะเดียวกันก็อนุญาตให้สมาชิกราชวงศ์หญิงยังคงสถานะราชวงศ์เดิมหลังการสมรสและปฏิบัติหน้าที่ราชการต่อไปได้ ฝ่ายอนุรักษนิยมยังเสนอให้รับบุตรชายจากราชวงศ์เดิมที่ถูกถอดฐานันดรให้เป็นสามัญชนมาสืบทอดราชสกุลฝ่ายชาย ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ถูกมองว่าไม่สามารถปฏิบัติได้

คณะกรรมการสิทธิสตรีแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา ได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้มีจักรพรรดิหญิงเมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่า การไม่ทำเช่นนั้นจะขัดขวางความเท่าเทียมทางเพศในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นปฏิเสธรายงานดังกล่าวว่า “น่าเสียดาย” และ “ไม่เหมาะสม” โดยระบุว่า การสืบราชสันตติวงศ์เป็นเรื่องของอัตลักษณ์ประจำชาติขั้นพื้นฐาน

“แม้จะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นชัดเจนว่าสนับสนุนความเหนือกว่าของผู้ชาย นั่นคือสังคมในอุดมคติของพวกเขา” ศาสตราจารย์คาวานิชิกล่าว

ใต้ข่าวเรื่องดังกล่าวของเว็บไซต์ Japan Today มีผู้แสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ

Asiaman บอกว่า “อาจจะยากหน่อย เพราะนายกรัฐมนตรี ทาคาอิจิ ค้านหัวชนฝาเรื่องผู้หญิงสืบทอดราชบัลลังก์”

u_s__reamer คอมเม้นต์ว่า “จักรพรรดิไอโก ฟังดูดีนะ เปลี่ยนธรรมเนียมเก่าๆ แล้วสร้างหนทางเพื่ออนาคตกันเถอะ! ทาคาอิจิควรทำตัวให้เป็นประโยชน์สักครั้งด้วยการนำการเปลี่ยนแปลงอันสดชื่นมาสู่จักรวรรดิ ก่อนที่การทำลายตัวเองของสถาบันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จะมาถึงญี่ปุ่นในอนาคต”

Pongo มองว่า “นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และเป็นการต่อลมหายใจให้กับสังคมของเรา...ฉันโหวตใช่!”

Divinda บอกว่า “นายกฯ คนใหม่ควรพูดอย่างเปิดเผยว่าเหตุใดการมีผู้หญิงเป็นผู้นำเชิงสัญลักษณ์จึงเป็นไปไม่ได้และไม่สอดคล้องกับแนวคิดของพรรคของเธอด้วย”

Meiyouwenti บอกว่า “จักรพรรดิหญิงทั้ง 8 พระองค์ครองตัวโสดตลอดชีวิต เพื่อให้เชื้อพระวงศ์ชายได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อ คุณคาดหวังให้เจ้าหญิงไอโกะทำเหมือนกันเหรอ”

MilesTeg ตอบคนที่คอมเม้นต์ว่า อาจจะยากหน่อย เพราะนายกรัฐมนตรี ทาคาอิจิ ค้านหัวชนฝาเรื่องผู้หญิงสืบทอดราชบัลลังก์ ว่า “โง่บรมและหน้าไหว้หลังหลอก ทาคาอิจิไม่มีปัญหาในการเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง แต่คัดค้านไม่ให้ผู้หญิงเป็นผู้นำราชวงศ์ หลักฐานทั้งหมดที่คุณต้องการคือเธอเป็นคนหลอกลวงและไร้เหตุผล”

Thomas Henry Howard บอกว่า “ถ้าราชินีอังกฤษสามารถครองราชย์ได้ 70 ปี ก็ถึงเวลาแล้วที่ญี่ปุ่นควรอนุญาตให้มีจักรพรรดิหญิง หากสตรีสามารถดำรงตำแหน่งสูงสุดที่ได้รับการเลือกตั้งในประเทศได้ การอนุญาตให้มีจักรพรรดิหญิงจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล”

Photo by HANDOUT / IMPERIAL HOUSEHOLD AGENCY / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์