ปธน.อินโดฯ เอาจริง! เตรียมกวาดล้าง ‘คอร์รัปชัน’ แบบถอนรากถอนโคนทั่วประเทศ

16 ส.ค. 2568 - 08:01

  • ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์ (15 ส.ค.) ว่า อินโดนีเซียจะปราบปรามการดำเนินธุรกิจแบบเอารัดเอาเปรียบ หรือที่เรียกว่า ‘greednomics’ เป็นครั้งแรก

  • “มีนักธุรกิจบางคนที่ใช้ความมั่งคั่งของตัวเอง…เพื่อหลอกลวงและโกงผลประโยชน์ของประชาชนชาวอินโดนีเซียเพื่อแสวงหากำไรสูงสุด ซึ่งสำหรับเรานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้” ปราโบโว กล่าว

  • นอกจากนี้ ปราโบโวยังให้คำมั่นว่าจะ ‘ขจัดคอร์รัปชัน’ ซึ่งเขากล่าวว่า “คอร์รัปชันกำลังแพร่ระบาด ในทุกระดับของระบบราชการ”

ปธน.อินโดฯ เอาจริง! เตรียมกวาดล้าง ‘คอร์รัปชัน’ แบบถอนรากถอนโคนทั่วประเทศ

ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์ (15 ส.ค.) ว่า อินโดนีเซียจะปราบปรามการดำเนินธุรกิจแบบเอารัดเอาเปรียบ หรือที่เรียกว่า ‘greednomics’ เป็นครั้งแรก โดยได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของรัฐบาลนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว 

ปราโบโวกล่าวต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ยอมให้บริษัทที่ผูกขาด กำหนดราคาสินค้า กักตุนสินค้าที่มีเงินอุดหนุนเพื่อนำมาขายทำกำไร หรือจงใจสร้างภาวะขาดแคลนเพื่อปั่นราคาตลาด 

“มีนักธุรกิจบางคนที่ใช้ความมั่งคั่งของตัวเอง…เพื่อหลอกลวงและโกงผลประโยชน์ของประชาชนชาวอินโดนีเซียเพื่อแสวงหากำไรสูงสุด ซึ่งสำหรับเรานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้”

ปราโบโว กล่าว 

นอกจากนี้ ปราโบโวยังให้คำมั่นว่าจะลงโทษธุรกิจและบุคคลที่ดำเนินการในลักษณะที่เขาเรียกว่า ‘serakahnomics’ หรือ ‘greednomics’ “รัฐบาลภายใต้การนำของผมจะคอยจับตาดูกรณีการโกง การปั่นราคา การฉ้อโกง การกักตุนสินค้า และการกำหนดราคา...รัฐบาลของผมนำจะไม่ลังเลที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนชาวอินโดนีเซีย” 

การควบคุม ‘greednomics’ เหล่านี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ปราโบโวกล่าวว่า เขาได้จัดตั้งสหกรณ์หมู่บ้านมากกว่า 80,000 แห่งทั่วอินโดนีเซีย เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับการอุดหนุนจะไม่ถูกควบคุมโดยพ่อค้าคนกลาง แต่เกษตรกรจะได้รับประโยชน์โดยตรง 

“สหกรณ์จะช่วยให้เกษตรกรได้รับราคาที่ดีที่สุดสำหรับผลผลิตของพวกเขา...ยังคงมีเกษตรกรและชาวประมงที่อดอยากจำนวนมากที่ต้องดิ้นรนเพื่อขายพืชผล เรานำปุ๋ยจากโรงงานส่งตรงถึงชาวนา เราจัดหาอุปกรณ์การเกษตร (ฟรี) ให้กับเกษตรกร วันนี้ผมสังเกตเห็นว่าทุกที่ที่ผมไป เกษตรกรยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะเราซื้อ (ผลผลิตจากพวกเขา) ในราคาที่คงที่และเพิ่มรายได้ให้พวกเขา” ปราโบโว กล่าว 

ปราโบโวยังได้สรุปงบประมาณรัฐบาลปี 2026 ไว้ที่ 3,786.5 ล้านล้านรูเปียห์ (7.5 ล้านล้านบาท) โดยคาดการณ์ว่าจะมีการขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 2.48% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) พร้อมกล่าวว่า “รัฐบาลจะพยายามค่อยๆ ลดช่องว่างงบประมาณและสร้างสมดุลให้กับงบประมาณประจำปีภายใน 3 ปี” 

ให้คำมั่น ‘ขจัด’ คอร์รัปชัน 

ปราโบโวให้คำมั่นว่าจะ ‘ขจัดคอร์รัปชัน’ ซึ่งเขากล่าวว่า “คอร์รัปชันกำลังแพร่ระบาด ในทุกระดับของระบบราชการ” 

“รัฐบาลประหยัดเงินได้ประมาณ 300 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 6 แสนล้านบาท) ด้วยการลด ‘ค่าใช้จ่ายที่เสี่ยงต่อการทุจริตและการบิดเบือนข้อมูล’ ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่จำเป็น การประชุมที่มากเกินไป และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น เราจะไม่ลังเลที่จะคลี่คลายคดีคอร์รัปชันที่สำคัญ” ปราโบโว กล่าว 

ปราโบโวยังให้คำมั่นว่าจะปราบปรามการทำเหมืองผิดกฎหมาย โดยเขากล่าวว่า “สิ่งนี้ทำให้รัฐสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงการลักลอบนำสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตในประเทศ” 

ภีมะ ยุธิษฐิระ ผู้อำนวยการบริหารศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจและกฎหมาย (CELIOS) บอกกับสำนักข่าว CNA ว่าเขาเห็นด้วยที่กิจกรรมผิดกฎหมายและการปฏิบัติที่ผิดจริยธรรมซึ่งปราโบโวเรียกว่า ‘greednomics’ กำลังทำให้อินโดนีเซียสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ แต่ภีมะบอกว่า “การปราบปรามจะต้องใช้เวลานานหลายปี” 

ขณะเดียวกัน กุนโต อาดี วิโบโว ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัยปัทจาดจารัน ก็ออกมาโต้แย้งที่ปราโบโวพูดถึง ‘greednomics’ และการทุจริตว่า “โดยสรุปแล้ว สุนทรพจน์ของปราโบโวดูเหมือนจะบอกว่า หากเศรษฐกิจไม่ดีนัก หากประชาชนกำลังทุกข์ยาก ก็เป็นเพราะการกระทำของธุรกิจที่ไร้หัวใจและเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตเหล่านี้ ไม่ใช่ผลจากความผิดพลาดและการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาล”  

“เขาต้องพิสูจน์ว่าเขาจริงจังกับการปราบปรามการกระทำเหล่านี้ มิฉะนั้น ก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เขาโยนความผิดให้กับปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน” 

กุนโต อาดี วิโบโว กล่าว

(Photo by BAY ISMOYO / POOL / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์