การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติของรัสเซีย ต้องถูกเลื่อนออกไป หลังจากรัสเซีย ‘ปฏิเสธ’ การหยุดยิงในยูเครนทันที ทำให้เกิดความคลุมเครือต่อความพยายามในการเจรจา ขณะที่ทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการ ‘การพบปะที่ไร้ประโยชน์’ “ประเด็นสำคัญที่ยังคงติดขัดก็คือ การที่รัสเซียปฏิเสธที่จะยุติการสู้รบตามแนวรบปัจจุบัน” ทรัมป์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า “ไม่มีแผนสำหรับการประชุมระหว่างทรัมป์และปูตินในอนาคตอันใกล้” หลังจากที่ทรัมป์เคยกล่าวไว้เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ว่า พวกเขาทั้งคู่จะจัดการเจรจาที่กรุงบูดาเปสต์ภายใน 2 สัปดาห์
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างข้อเสนอสันติภาพของสหรัฐฯ และรัสเซียเริ่มชัดเจนขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งดูเหมือนจะทำลายโอกาสในการจัดการประชุมสุดยอด โดยทรัมป์และปูตินพบกันครั้งล่าสุดระหว่างการประชุมสุดยอดที่อะแลสก้าเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นอย่างเร่งรีบ และไม่ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
“ผมเดาว่ารัสเซียต้องการมากเกินไป และก็เห็นได้ชัดว่าจะไม่มีข้อตกลงใดๆ สำหรับทรัมป์และปูตินในบูดาเปสต์”
— นักการทูตอาวุโสประจำยุโรปกล่าวกับสำนักข่าว Reuters
ส่วนการประชุมเตรียมการระหว่างมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย จะมีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่ทำเนียบขาวระบุว่า ทั้งคู่ได้หารือกันอย่าง ‘สร้างสรรค์’ และการประชุมครั้งนี้ก็ ‘ไม่จำเป็น’ อีกต่อไป
เมื่อวันจันทร์ (20 ต.ค.) ทรัมป์ได้ตอบรับข้อเสนอหยุดยิงที่ได้รับการสนับสนุนจากยูเครน และผู้นำยุโรป เพื่อยุติความขัดแย้งในแนวหน้าปัจจุบัน ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกสภาเครมลินของรัสเซีย กล่าวว่า“ความคงเส้นคงวาของจุดยืนของรัสเซียยังคงไม่เปลี่ยนแปลง” ซึ่งหมายถึงการยืนกรานของรัสเซียที่ต้องการให้ยูเครนถอนทหารออกจากพื้นที่ทางตะวันออกที่กำลังเผชิญสงครามทั้งหมด
“รัสเซียสนใจเพียง ‘สันติภาพระยะยาวที่ยั่งยืน’...สาเหตุหลักของความขัดแย้งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข รวมถึงการรับรองอธิปไตยของรัสเซียเหนือดอนบาสอย่างเต็มรูปแบบ และการปลดอาวุธยูเครน ซึ่งยูเครนและพันธมิตรในยุโรปไม่สามารถดำเนินการได้”
— ลาฟรอฟ กล่าวเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.)
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีกล่าวเสมอว่า “ยูเครนไม่สามารถสละพื้นที่ดอนบาสที่ยังคงยึดครองอยู่ได้” โดยให้เหตุผลว่า “รัสเซียอาจใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานสำหรับการโจมตีเพิ่มเติมในภายหลัง”
ก่อนหน้านี้ ผู้นำยุโรปได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับเซเลนสกีเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) โดยระบุว่า “การเจรจาใดๆ เพื่อยุติสงครามในยูเครนควรเริ่มต้นจากการตรึงแนวหน้าในปัจจุบัน” พร้อมกล่าวหา รัสเซียว่า “ไม่ ‘จริงจัง’ ที่จะเจรจาสันติภาพ”
“การหารือเกี่ยวกับแนวหน้าถือเป็น ‘จุดเริ่มต้นของการทูต’ ซึ่งรัสเซียกำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยง”
— เซเลนสกี กล่าว
(Photo by ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP)
