กองทัพเรือฟิลิปปินส์และอินเดียเริ่มปฏิบัติการลาดตระเวนร่วมกันในพื้นที่ทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาทเป็นครั้งแรก โดยภารกิจ 2 วันนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมกับเรือรบอินเดีย 3 ลำ ขณะที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส แห่งฟิลิปปินส์เตรียมเดินทางเยือนนิวเดลีในวันจันทร์เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีนเรนทร โมดี แห่งอินเดีย
ความร่วมมือทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้น
พันโทจอห์น พอล ซัลกาโด โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า การลาดตระเวนเริ่มตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์และยังคงดำเนินต่อเนื่อง โดยขณะนี้กำลังทำภารกิจเติมเสบียงกลางทะเล
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นหลังฟิลิปปินส์กระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับพันธมิตรหลายประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา ภายหลังเกิดการปะทะหลายครั้งในน่านน้ำที่มีข้อพิพาท ซึ่งจีนอ้างสิทธิ์เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ แม้ว่าคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศจะระบุว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย
การเยือนอินเดียและข้อตกลงใหม่
ระหว่างการเยือนอินเดีย คาดว่ามาร์กอสจะลงนามข้อตกลงหลายฉบับครอบคลุมด้านกฎหมาย วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ตามที่อีวานเจลีน อ๊อง ฮิเมเนซ-ดูโครค ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุ แต่สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ความเป็นไปได้ของข้อตกลงด้านกลาโหมใหม่
ก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์เคยจัดซื้อขีปนาวุธร่อนเหนือเสียง BrahMos จากอินเดีย ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 3,450 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บทบาทของอินเดียในภูมิภาค
อินเดียซึ่งเคยมีการปะทะชายแดนกับจีนในเทือกเขาหิมาลัย เป็นสมาชิกกลุ่ม Quad ที่ประกอบด้วยประเทศประชาธิปไตย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
จีนกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความร่วมมือ 4 ฝ่ายนี้ ซึ่งริเริ่มโดยชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นเพื่อสกัดกั้นจีน
การลาดตระเวนร่วมครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่เพียงส่งสัญญาณถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างมะนิลาและนิวเดลี แต่ยังสะท้อนถึงการปรับตัวเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ท่ามกลางการแข่งขันอำนาจที่ทวีความรุนแรง คำถามสำคัญคือ ความร่วมมือใหม่นี้จะส่งผลต่อดุลอำนาจในทะเลจีนใต้อย่างไร?