หน่วยกู้ภัยในประเทศเนปาลและอินเดียเร่งส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินเข้าสู่พื้นที่ประสบภัย หลังฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของเทือกเขาหิมาลัย มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 74 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง
เนปาลกำลังเผชิญ ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ จากฝนตกหนักที่ก่อให้เกิด ดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน หลายพื้นที่ในประเทศถูกตัดขาดจากโลกภายนอก สะพานและถนนหลายสายถูกกระแสน้ำพัดขาด บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและตะวันตกที่อยู่ในแนวเขา
ฝนตกหนักเหนือค่าเฉลี่ย สะท้อนผลกระทบโลกร้อน
นักอุตุนิยมวิทยาเนปาลเปิดเผยว่า สภาพอากาศแปรปรวนในปีนี้มีความรุนแรงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอย่างชัดเจน ทั้งในด้านปริมาณฝนและระยะเวลาของฝนตก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของ “ภาวะโลกร้อน” ที่ทำให้ฤดูมรสุมในภูมิภาคเอเชียใต้มีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ฝนตกหนักขึ้น ไม่สม่ำเสมอ และมาเร็วหรือช้ากว่าฤดูกาลปกติ
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนของวิกฤตภูมิอากาศโลก ซึ่งส่งผลต่อ ระบบนิเวศบนเทือกเขาหิมาลัย ที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเกิด ภัยธรรมชาติที่ถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น เช่น ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และการละลายของธารน้ำแข็งที่เร็วผิดปกติ
“ฝนมรสุมไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับภูมิภาคนี้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือระดับความรุนแรงและผลกระทบที่หนักขึ้นทุกปี”
— นักวิจัยด้านภูมิอากาศจากกาฐมาณฑุ กล่าว

การเข้าถึงพื้นที่ยังยากลำบาก
สำนักงานบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติของเนปาล (NDRRMA) รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มแล้วอย่างน้อย 46 คน สูญหายอีก 6 คน โดยในบางพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขา และใช้เชือกพาดเพื่อข้ามแม่น้ำ เนื่องจากเส้นทางสัญจรถูกน้ำพัดหาย
กองทัพเนปาลได้ระดมเฮลิคอปเตอร์และเรือยนต์เข้าช่วยเหลือ พร้อมจัดส่งเสบียงไปยังหมู่บ้านที่ถูกตัดขาด
อินเดีย: ดาร์จีลิ่งวิกฤต นักท่องเที่ยวนับร้อยติดค้าง
ในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย เขตดาร์จีลิ่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและปลูกชาชื่อดัง กำลังประสบภัยหนักจากดินถล่มและฝนตกไม่หยุด โดยมีรายงาน ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 ราย และบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 100 หลัง
“มีรายงานดินถล่มถึง 35 จุดในดาร์จีลิ่ง เราคาดว่าเมื่อสามารถเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลได้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงขึ้น”
— เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐเบงกอลตะวันตก กล่าว
นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนติดค้างในโรงแรมและหมู่บ้านโดยรอบ ทางการแนะนำให้อยู่ในที่ปลอดภัยจนกว่าถนนจะสามารถเปิดใช้งานได้ และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้ “ช้าง” ในการอพยพนักท่องเที่ยวบางส่วนออกจากพื้นที่ ขณะที่แม่น้ำในประเทศภูฏานที่อยู่ใกล้เคียง ก็มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้กองทัพอินเดียต้องส่งกำลังเข้าช่วยเหลือข้ามพรมแดนเช่นกัน
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนชัดเจนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของ “อุณหภูมิที่สูงขึ้น” แต่หมายถึง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของฤดูกาล ฝนตก การละลายของน้ำแข็ง และภัยธรรมชาติที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเสี่ยงเช่นเทือกเขาหิมาลัย


