ทหารเมียนมาประสานงานกับกองกำลังกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดน (BGF) ร่วมปฏิบัติการโจมตีเผาอาคารใน KK-Park ปราบแก๊งค์สแกมเมอร์ก่อนประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันที่ 26-28 ต.ค.นี้ ขณะที่ชาวต่างชาติหลายพันคนจาก KK-Park ยังคงต่อแถวรอที่ด่านชายแดนเพื่อหวังจะข้ามเข้าสู่ประเทศไทย
รายงานล่าสุดพบว่า มีผู้คนที่หลบหนีว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเมยมาชายแดนไทยมากกว่า 1,600 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยต้องรับมือกันอย่างหนัก เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อมูลต่างๆ แต่จำนวนบุคลากรไม่เพียงพอ
มีรายงานว่า กองกำลัง BFG ได้วางระเบิดในอาคาร KK-Park ที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ เนื่องจากทหารเมียนมาจะนำกำลังเข้าตรวจสอบในวันนี้ (24 ต.ค.) พร้อมกับคณะจากทางการจีนก็จะร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการปล่อยภาพการปราบปรามอาชญากรรมสแกมเมอร์ร่วมกันระหว่างเมียนมา และจีน ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน
โก โพธิ์ ติงยาน จากสมาคมอิรวดีโพ้นทะเล ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนผู้อพยพและผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา ประจำอำเภอแม่สอด ประเทศไทย กล่าวว่า “ขณะนี้กำลังเตรียมการเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่แรงงานประมาณ 2,000 คนที่หลบหนีจาก KK-Park และทางการไทยยังคงจัดเตรียมพื้นที่ต้อนรับในฝั่งชายแดน”
ขณะที่กลุ่ม ‘Justice for Myanmar’ (JFM) ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่รายงานข่าวเกี่ยวกับศูนย์หลอกลวง ได้กล่าวหากองทัพเมียนมาว่า ควบคุมดูแลเครือข่ายอาชญากรขนาดใหญ่ร่วมกับกองกำลัง BGF ซึ่งเป็นพันธมิตร
“พวกเขาทำหน้าที่เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้ศูนย์กลางอย่าง KK-Park เป็นทุนสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาชญากรรมระหว่างประเทศที่กำลังดำเนินอยู่...กำไรของพวกเขามาจากการควบคุมที่ดิน โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับการหลอกลวงทางไซเบอร์ การรีดไถ การลักลอบขนสินค้า การค้ามนุษย์ และการขายสาธารณูปโภค”
— JFM ระบุ
นอกจากนี้ JFM ยังระบุอีกว่า “รัฐบาลทหารว่าเป็นต้นตอของความไม่มั่นคงในภูมิภาค” พร้อมทั้งเรียกร้องให้อาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการต่อต้าน ‘ระบอบการปกครองของทหาร’
(Photo by : LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP)


