Meta บริษัทแม่ของ WhatsApp ระบุว่า WhatsApp ได้ทำการลบบัญชีผู้ใช้ไปแล้ว 6.8 ล้านบัญชีที่มีความเชื่อมโยงกับกับศูนย์หลอกลวงอาชญากรรมออนไลน์ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งบัญชีเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับศูนย์หลอกลวงที่ดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมักบังคับให้ผู้คนหลายพันคนดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์
ศูนย์หลอกลวงเหล่านี้ดำเนินงานจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคดังกล่าว เช่น เมียนมาและกัมพูชา ซึ่งมักใช้คนที่ถูกหลอกมาทำงานอีกที และถูกใช้ทำงานเสมือนทาสให้หลอกลวงเอาเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์จากเหยื่อผู้บริสุทธิ์ทั่วโลกทางออนไลน์
ปฏิบัติการทางอาชญากรรม ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘การหลอกเชือดหมู’ (Pig butchering) นั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกับผู้คนทางออนไลน์ เพื่อชักจูงและหลอกลวงให้พวกเขาโอนเงินเข้าไปในแผนการลงทุนปลอม โดยมักจะโอนผ่านสกุลเงินดิจิทัล
การหลอกลวงโดยทั่วไปมักเริ่มต้นด้วยข้อความ หรือแชทในแอปฯ หาคู่ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายไปสู่แอปฯ ส่งข้อความส่วนตัว และจบลงด้วยแพลตฟอร์มการชำระเงิน หรือสกุลเงินดิจิทัล
แต่ในบางกรณี OpenAI ก็พบว่า เหล่ามิจฉาชีพใช้ ChatGPT เพื่อสร้างข้อความแรกที่มีลิงก์ไปยังแชทใน WhatsApp ก่อนจะรีบชักนำเหยื่อไปยังแอปฯ Telegram ซึ่งที่นั่นจะมีมิจฉาชีพทำงานด้วยการกดไลก์วิดีโอบน TikTok เพื่อแลกกับเงิน มิจฉาชีพจะสร้างความไว้วางใจกับเหยื่อด้วยการแบ่งเงินที่พวกเขาได้รับไปแล้วในทางทฤษฎี ก่อนที่จะขอให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีสกุลเงินดิจิทัลเป็นขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ดี บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึง WhatsApp และ OpenAI เคยร่วมมือกันเพื่อขัดขวางความพยายามของศูนย์หลอกลวงเหล่านี้มาก่อน โดย Meta เคยลบบัญชีที่เชื่อมโยงกับศูนย์หลอกลวงดังกล่าวไปแล้วกว่า 2 ล้านบัญชีในเมียนมา ลาว กัมพูชา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฟิลิปปินส์
“จากข้อมูลเชิงลึกในการสืบสวนและความพยายามในการบังคับใช้ล่าสุด เราได้ตรวจพบและลบบัญชีผู้ใช้ก่อนที่ศูนย์หลอกลวงจะสามารถเริ่มใช้งานบัญชีเหล่านั้นได้ เราขอแนะนำให้คุณหยุดคิด ตั้งคำถาม และตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนตอบกลับข้อความที่ดูน่าสงสัยหรือผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากข้อความนั้นมาจากหมายเลขที่คุณไม่รู้จักและสัญญาว่าคุณจะได้เงินง่ายๆ ในเวลาอันรวดเร็ว” บริษัท Meta แถลง
Photo by : Shutterstock / Potashev Aleksandr
