เกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชาที่ดำเนินธุรกิจค้ามนุษย์และหลอกลวงขนาดใหญ่ เพื่อตอบโต้การลักพาตัวพลเมืองเกาหลีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
คาดว่าจะมีการประกาศยืนยันการดำเนินการดังกล่าวในปลายเดือนนี้ และจะเป็นการดำเนินการที่เด็ดขาดที่สุดของโซล เพื่อแก้ไขข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่ารัฐบาลดำเนินการล่าช้า
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านการเงินระบุว่า หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FIU) ภายใต้คณะกรรมการบริการทางการเงิน กำลังพิจารณาว่าจะขึ้นบัญชีผู้ต้องสงสัยในคดีอาญาและธุรกิจในเครือเป็น “นิติบุคคล/บุคคลที่ถูกจำกัด” ซึ่งเป็นมาตรการที่จะอายัดทรัพย์สินและปิดกั้นธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล หรือไม่
“หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้หารือกันเกี่ยวกับวิธีการกำหนดลักษณะขององค์กรอาชญากรรมในกัมพูชาและวิธีการรับมือกับพวกเขา” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว
การหารือดังกล่าวเกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากสหรัฐฯ และอังกฤษประกาศร่วมกันคว่ำบาตรบริษัท Prince Group และ Huione Group ของกัมพูชา ซึ่งทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าค้ามนุษย์ ฟอกเงิน และฉ้อโกงทางไซเบอร์ครั้งใหญ่
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำหนดให้ Prince Group เป็น “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” และฟ้องร้อง เฉินจื้อ ประธานและซีอีโอชาวจีน ในข้อหาฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์และฟอกเงิน ปัจจุบันมีรายงานว่ายังไม่สามารถระบุที่อยู่ของเขาได้หลังจากมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตร ขณะที่ Huione Group ถูกตัดขาดจากระบบการเงินของสหรัฐฯ
มูลค่าทรัพย์สินของสองอาณาจักรธุรกิจนี้ในเกาหลีใต้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ขณะนี้ตำรวจเกาหลีกำลังสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า Prince Group เปิดสำนักงานในกรุงโซล ซึ่งอาจใช้เป็นฉากบังหน้าในการสรรหาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานในต่างประเทศ บริษัทในเครืออสังหาริมทรัพย์ของ Prince Group ถูกพบว่าเปิดสำนักงานบนชั้น 16 ของอาคารในย่านกังนัม ทางตอนใต้ของกรุงโซลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ภายใต้ชื่อ KINGMEN REAL ESTATE GROUP
ในการตรวจสอบการใช้อำนาจบริหารและตุลาการของรับบาลโดยรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยูแจซอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ตำรวจกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหานี้เพื่อพิจารณาว่าจะเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับบริษัทในเครือ Prince Group ในประเทศหรือไม่
มาตรการคว่ำบาตรที่เกาหลีใต้คาดว่าจะเกิดขึ้นจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับโซล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เน้นย้ำถึงการทูตมากกว่ามาตรการลงโทษ ขณะเดียวกัน FIU ยังมีแผนที่จะขยายการสืบสวนกิจกรรมการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในสิ้นปีนี้
รายงานการลักพาตัวและการกักขังชาวเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายในกัมพูชาที่สำนักงานกระทรวงการต่างประเทศได้รับเพิ่มขึ้นเป็น 330 ราย ณ เดือนสิงหาคม เทียบกับเพียง 17 รายในปี 2023 ในหลายกรณีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงด้วยข้อเสนองานถูกบังคับให้เข้าร่วมการฉ้อโกงออนไลน์ ซึ่งมักถูกข่มขู่ว่าจะถูกทรมานหรือเสียชีวิต เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนชาวเกาหลีใต้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังพบศพนักศึกษาวัย 22 ปีที่ถูกลักพาตัวในกัมพูชา พร้อมหลักฐานการถูกทรมานอย่างรุนแรง
เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมที่คล้ายคลึงกันนี้ กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ได้เริ่มติดประกาศเตือนสาธารณะที่สนามบินนานาชาติอินชอนสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางไปยังกัมพูชา เพื่อเตือนให้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการฉ้อโกงการจ้างงาน การจำคุก และการลักพาตัว นอกจากนี้ สายการบินต่างๆ ยังได้รับคำสั่งให้แจกใบปลิวเตือนให้ระมัดระวังและแจ้งข้อมูลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
Photo by TANG CHHIN SOTHY / AFP
