ทีมกู้ภัยอินโดนีเซียเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต 59 คนที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคารโรงเรียนประจำที่ถล่มลงในเกาะชวา โดยวางแผนขุดอุโมงค์เพื่อเข้าถึงพื้นที่ที่ผู้ประสบภัยอยู่ แม้จะมีความเสี่ยงที่อาจทำให้ซากอาคารไม่มั่นคง
อาคารโรงเรียนประจำหลายชั้นในเกาะชวาถล่มลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักเรียนกำลังรวมตัวกันเพื่อละหมาดช่วงบ่าย จากบันทึกของโรงเรียนพบว่า มีผู้คนถูกฝังใต้ซากอาคาร 91 คน และมีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้วอย่างน้อย 5 คน
อับดุล มูฮารี โฆษกหน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ณ คืนวันพุธที่ผ่านมา ยังมีผู้คนติดอยู่ประมาณ 59 คน โดยเตือนว่าข้อมูลนี้ "มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด" เนื่องจากบางคนที่รอดชีวิตยังไม่ได้ออกมาแจ้ง
ความท้าทายของภารกิจกู้ภัย
โมฮัมหมัด สยาฟี หัวหน้าหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอธิบายว่า การปฏิบัติการกู้ภัยมีความซับซ้อน เนื่องจากการสั่นสะเทือนในจุดหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่น "เพื่อที่จะไปถึงจุดที่เหยื่ออยู่ เราต้องขุดอุโมงค์ใต้ดิน" เขากล่าวกับนักข่าว
การขุดอุโมงค์เองก็มีความท้าทาย รวมถึงความเป็นไปได้ของการเกิดดินถล่ม อุโมงค์ที่จะขุดได้จะมีความกว้างเพียง 60 เซนติเมตร เนื่องจากข้อจำกัดของเสาคอนกรีตของอาคาร
ครอบครัวรอข่าวคราวอย่างกังวลใจ
ครอบครัวที่อยู่ในความเศร้าโศกรออย่างใจจดใจจ่อใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อรับฟังข่าวคราวของคนที่รัก ชาวบ้านในพื้นที่เสนอให้ครอบครัวเหล่านี้เข้าพักในบ้านของพวกเขาระหว่างรอคอย
เมาลานา บายู ปราตามา วัย 28 ปี ซึ่งมีน้องชายวัย 17 ปีหายไป กล่าวว่า "ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันแรก ผมหวังข่าวดี หวังว่าน้องชายจะรอดชีวิต ผมยังมีความหวัง มันผ่านไป 4 วันแล้ว ผมหวังว่าจะเจอน้องเร็วๆ ผมเศร้าเมื่อคิดว่าเขาอยู่ข้างล่างนั้นมา 4 วันแล้ว"
สาเหตุเบื้องต้นชี้การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
การสืบสวนหาสาเหตุการถล่มในเมืองซิโออาร์โจยังดำเนินอยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า สัญญาณเบื้องต้นชี้ไปที่การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ด้านโฆษกหน่วยงานบริหารภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า อาคารพังทลายหลังจากเสาฐานรากไม่สามารถรับน้ำหนักของการก่อสร้างใหม่ในชั้น 4 ของโรงเรียนได้
มาตรฐานการก่อสร้างที่หละหลวมเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาคารในอินโดนีเซีย ซึ่งปกติมักจะปล่อยให้โครงสร้าง โดยเฉพาะบ้านเรือน สร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้เจ้าของสามารถก่อสร้างเพิ่มเติมเมื่อมีงบประมาณเพียงพอได้
