ยอดดับน้ำท่วมอินโดนีเซียพุ่งทะลุ 300 ราย สูญหายอีกกว่า 300

30 พ.ย. 2568 - 04:31

  •   ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตราได้รับผลกระทบหนักที่สุด

  • พบผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพยายามปล้นสะดมสิ่งของจำเป็นในพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดตาปานูลี

  • สภาพอากาศที่ดีขึ้นในวันเสาร์ช่วยให้หน่วยกู้ภัยสามารถกู้ศพได้มากขึ้น

ยอดดับน้ำท่วมอินโดนีเซียพุ่งทะลุ 300 ราย สูญหายอีกกว่า 300

หัวหน้าหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มอันเนื่องมาจากพายุไซโคลนบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 303 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ที่ 174 ราย

พื้นที่ส่วนใหญ่ของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักจากพายุไซโคลนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว โดยมีพายุโซนร้อนก่อตัวขึ้นในช่องแคบมะละกา

ซูฮาร์ยันโต หัวหน้าหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยังมีผู้สูญหายอย่างน้อย 279 คน แม้ว่าจะมีการอพยพประชาชนไปแล้วประมาณ 80,000 คน และยังคงมีผู้ติดค้างอยู่หลายร้อยคนในสามจังหวัดทั่วเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นพื้นที่ตะวันตกสุดของอินโดนีเซีย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อส่งความช่วยเหลือและสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ทางตอนเหนือของเกาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยถนนถูกตัดขาดและโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารถูกทำลายจากดินถล่ม

“เรากำลังพยายามเปิดเส้นทางจากตาปานูลีเหนือไปยังซิโบลกา (ในจังหวัดสุมาตราเหนือ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกตัดขาดอย่างรุนแรงที่สุดเป็นวันที่สาม” ซูฮาร์ยันโตเผย และเสริมว่า หน่วยกู้ภัยกำลังพยายามฝ่าถนนที่ปิดกั้นอันเนื่องมาจากดินถล่ม และประชาชนติดอยู่บนถนนและต้องการเสบียง โดยจะมีการเสริมกำลังทหารในวันอาทิตย์เพื่อช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์

นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพยายามปล้นสะดมสิ่งของจำเป็นในพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดตาปานูลี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก

Photo by Azzam Risqullah / AFP
Photo by Azzam Risqullah / AFP

สภาพอากาศที่ดีขึ้นในวันเสาร์ช่วยให้หน่วยกู้ภัยสามารถกู้ศพได้มากขึ้น แต่ยังคงประสบปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน

บางส่วนของเกาะสุมาตรา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์ ภูเขาไฟ และเทือกเขา ถูกตัดขาดจากถนนที่ชำรุดและสายสื่อสารที่ขาดการติดต่อ ส่งผลให้ต้องพึ่งพาเครื่องบินขนส่งเพื่อขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์

ฝนมรสุมในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้แม่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลันพัดถล่มหมู่บ้านบนเชิงเขา พัดพาผู้คน และบ้านเรือนและอาคารหลายพันหลังจมอยู่ใต้น้ำในสามจังหวัด ได้แก่ สุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก และอาเจะห์

“มีความท้าทายมากมาย” มูซากีร์ มานาฟ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจะห์กล่าวหลังจากประกาศภาวะฉุกเฉินจนถึงวันที่ 11 ธันวาคม “เราต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างในเร็วๆ นี้ แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้เราทำเช่นนั้น”

กู้ภัยต้องการอุปกรณ์หนัก

ซูฮาร์ยันโตเผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้การหว่านเมฆ เพื่อกระจายอนุภาคในเมฆเพื่อสร้างฝน ในการเบี่ยงเบนฝนออกจากพื้นที่ที่ความพยายามค้นหาและกู้ภัยกำลังดำเนินการอยู่

ในเขตอากัม จังหวัดสุมาตราตะวันตก มีผู้สูญหายเกือบ 80 คนในสามหมู่บ้าน ถูกฝังอยู่ใต้โคลนและหินหลายตัน ทั้งยังมีความต้องการอุปกรณ์หนักอย่างเร่งด่วนเพื่อเข้าถึงผู้รอดชีวิต

ในจังหวัดอาเจะห์ ทางตอนเหนือสุดของเกาะสุมาตรา เจ้าหน้าที่ประสบปัญหาในการนำรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลหนักอื่นๆ ออกใช้งาน ตำรวจ ทหาร และประชาชนหลายร้อยนายขุดค้นซากปรักหักพังด้วยมือเปล่า พลั่ว และจอบ ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก

อินโดนีเซียมักประสบกับแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และสึนามิ เนื่องจากตั้งอยู่บน “วงแหวนแห่งไฟ” ซึ่งเป็นแนวโค้งของภูเขาไฟและรอยเลื่อนในแอ่งแปซิฟิก

ฝนตามฤดูกาลมักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะ 17,000 เกาะ มีประชากรหลายล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาหรือใกล้ที่ราบน้ำท่วมถึงอันอุดมสมบูรณ์

Photo by CHAIDEER MAHYUDDIN / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์