ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับ 4,002.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในวันพุธ (8 ต.ค.)
“นักลงทุนยังคงเร่งซื้อทองคำ โดยทองคำมีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี และเพิ่มขึ้นเกือบ 12% เฉพาะในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว ซึ่งถือเป็นผลประกอบการรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์” ริชาร์ด แฟล็กซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Moneyfarm บริษัทจัดการความมั่งคั่งกล่าว
สำนักข่าว AFP วิเคราะห์สาเหตุของความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นไว้ดังนี้
- อะไรดันราคาทองคำให้พุ่งทะยาน –
โดยทั่วไปแล้ว ทองคำมักถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ช่วยกระตุ้นความต้องการท่ามกลางความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-กาซา
นักวิเคราะห์ระบุว่า การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ กำลังเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อทองคำ
ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งเกิดจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าไม่ได้ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพียงพอ เป็นอีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และความไม่แน่นอนที่เกิดจากมาตรการภาษีของทรัมป์
- ใครบ้างกำลังซื้อทองคำ –
เมื่อเดือนกรกฎาคม สภาทองคำโลก (WGC) รายงานว่า ความต้องการทองคำเติบโตปีละ 3% ในไตรมาสที่สอง สู่ระดับ 1,249 ตัน อันเนื่องมาจาก “สภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์และโมเมนตัมราคาที่ผันผวนมากขึ้น”
สมาคมอุตสาหกรรมทองคำเสริมว่า การซื้อของธนาคารกลาง “อยู่ในระดับที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่”
นอกจากนี้ ความต้องการทองคำผ่านกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนในตลาดหุ้นยังสูง โดยกองทุน ETF อนุญาตให้ลงทุนได้โดยไม่ต้องซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้าทองคำ
“แม้ว่ากำไรในช่วงต้นปีนี้จะมาจากความผันผวนที่เกิดจากภาษีศุลกากรในไตรมาสที่สอง แต่การพุ่งทะยานล่าสุดได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งและเงินทุนไหลเข้ากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่อ้างอิงทองคำเป็นประวัติการณ์” แฟล็กซ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของ WGC พบว่า ภาวะราคาที่สูงส่งผลให้ความต้องการเครื่องประดับลดลง
- มีสินทรัพย์อื่นที่เป็นที่ต้องการอีกมั้ย –
ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์เพียงชนิดเดียวที่ราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยตลาดหุ้นหลักและบิตคอยน์ก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่เช่นกัน
ราคาบิตคอยน์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (5 ต.ค.) “ในขณะที่ราคาทองคำยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกยังคงมองหาการกระจายการลงทุน แม้ว่าราคาหุ้นจะพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีสภาพคล่องเหลือเฟือ” คริส โบชองป์ นักวิเคราะห์ตลาดจากแพลตฟอร์มการซื้อขาย IG เผย
เช่นเดียวกับคริปโตเคอร์เรนซีที่ทะลุ 126,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร (7 ต.ค.) ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ตลาดหุ้นลอนดอน และตลาดหุ้นโตเกียว ต่างก็สร้างสถิติใหม่ในช่วงการซื้อขายล่าสุด
Photo by DAVID GRAY / AFP



