ฤทธิเดชไข่ GBU-12 Paveway II ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนามจนถึงชายแดนไทย-กัมพูชา

14 ธ.ค. 2568 - 09:30

  •   สหรัฐฯ พัฒนาระเบิด GBU-12 ในสมัยสงครามเวียดนาม

  • Paveway ll เข้าประจำการในปี 1976

  • การใช้งาน GBU-12 Paveway ll ครั้งสำคัญครั้งแรกเกิดขึ้นในสงครามอ่าวเปอร์เซียปี 1991

ฤทธิเดชไข่ GBU-12 Paveway II ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนามจนถึงชายแดนไทย-กัมพูชา

เครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ แบบ GBU-12 Paveway II ต่อเป้าหมายหลายจุด อาทิ คลังเก็บจรวด BM-21 และอาวุธหนักของกองทัพกัมพูชา

Spacebar พาไปรู้จัก “ระเบิดอัจฉริยะ” GBU-12 Paveway II จากสหรัฐฯ ที่มีใช้งานในหลายกองทัพทั่วโลก รวมทั้งไทย

ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 Paveway II พัฒนาจากระเบิด MK-82 ขนาด 500 ปอนด์ แต่ GBU-12 Paveway II  มีเลเซอร์ค้นหาเป้าหมายที่ติดตั้งไว้ที่ส่วนหัว และครีบสำหรับช่วยในการนำทางเพิ่มเข้ามา

สหรัฐฯ พัฒนาระเบิด GBU-12 ในสมัยสงครามเวียดนาม เนื่องจากต้องการระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ที่ดีกว่ารุ่นเดิม โดยเฉพาะต้องน้ำหนักเบาและคล่องตัวกว่า เพื่อให้สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ในเส้นทางรถไฟโฮจิมินห์ได้ ดังนั้นระเบิดนำวิถีรุ่นเก่า เช่น BOLT-117 จึงถูกแทนที่ด้วยซีรีส์ Paveway อย่างรวดเร็ว

Paveway ll เข้าประจำการในปี 1976 ต่อมากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้อัปเกรด GBU-12 ให้มีโหมดนำทางจีพีเอส โดย Lockheed Martin เป็นผู้จัดหาเพียงรายเดียวสำหรับการจัดซื้อของกองทัพเรือสหรัฐฯ ส่วน Raytheon จำหน่าย GBU-12 ที่ได้รับการอัปเกรดให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และอีก 23 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา โครเอเชีย ฝรั่งเศส อิหร่าน อิรัก มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โรมาเนีย สิงคโปร์ สโลวะเกีย ไต้หวัน ตุรกี และไทย

ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 Paveway (ล่าง) ที่ฐานทัพอากาศ BA 709 คอนญัก-ชาโตแบร์นาร์ดของฝรั่งเศส (Photo by MEHDI FEDOUACH / POOL / AFP)
ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 Paveway (ล่าง) ที่ฐานทัพอากาศ BA 709 คอนญัก-ชาโตแบร์นาร์ดของฝรั่งเศส (Photo by MEHDI FEDOUACH / POOL / AFP)

ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์มักถูกเรียกว่า “ระเบิดอัจฉริยะ” เพราะสามารถเคลื่อนที่ไปตามวิถีที่ไม่ใช่วิถีกระสุนเมื่อมีการกำหนดเป้าหมายด้วยเลเซอร์ เอกสารสรุปข้อมูลของ Paveway II จาก Raytheon ระบุว่า ค่าความแม่นยำเป้ายิง (Circular Error Probable) อยู่ที่ 1.1 เมตร (หมายความว่า หากมีการยิง Paveway II จำนวน 100 ลูกที่เล็งไปยังพิกัดเป้าหมาย (Mean Point of Impact: MPI) จะมี 50 ลูก ที่ตกคลาดเคลื่อนได้ไกลสูงสุด 1.1 เมตรจากตำแหน่งที่วางไว้) ขณะที่ค่าความแม่นยำเป้ายิงของระเบิดที่ไม่ได้นำวิถีจะอยู่ที่ 94 เมตรเมื่อยิงออกมาภายใต้สภาพเดียวกัน

ระเบิด GBU-12 ถูกนำไปใช้ในความขัดแย้งมากมาย การใช้งานครั้งสำคัญครั้งแรกเกิดขึ้นในสงครามอ่าวเปอร์เซียปี 1991 โดยเครื่องบินขับไล่ F-111 Aardvark ได้ทิ้งระเบิดเหล่านี้เพื่อทำลายรถถังและรถลำเลียงพลหุ้มเกราะของอิรักจำนวน 920 คันด้วยความแม่นยำสูง

จากนั้นยังนำมาใช้ในสงครามในอัฟกานิสถาน/อิรัก (2001-2011) เครื่องบินรบ A-10 Warthog, F-16 และ F/A-18 โจมตีเป้าหมายของกลุ่มตาลีบัน/อัล-กออิดะห์ และบังเกอร์ของอิรัก และลิเบีย (2011) เครื่องบินรบของสหรัฐฯ และพันธมิตรโจมตีเป้าหมายของระบอบกัดดาฟี

นาวิกโยธินบรรจุระเบิด Paveway ใส่เครื่องบิน F-35B Lightning ll (Photo by U.S. Navy)
นาวิกโยธินบรรจุระเบิด Paveway ใส่เครื่องบิน F-35B Lightning ll (Photo by U.S. Navy)

Paveway เป็นหนึ่งในระเบิดนำวิถีที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด สามารถปล่อยจากเครื่องบินได้หลากหลายประเภท เช่น F-111, B-52, A-10, F-15E, F/A-18, B-1B, F-16C/D และ F-35 (GBU-49)

ค่าใช้จ่ายในการใช้ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 Paveway II แตกต่างกันไป แต่ประมาณการล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 20,000 ถึงมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยวิกิพีเดียระบุตัวเลขไว้ที่ประมาณ 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วน GlobalSecurity ระบุว่า ต้นทุนการผลิตในอดีตอยู่ที่ประมาณ 19,000 ดอลลาร์สหรัฐ และบางรายงานบอกว่าราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย ขึ้นอยู่กับปีและแหล่งที่มา ซึ่งมักสะท้อนถึงการซื้อจำนวนมากหรือรายละเอียดสัญญาเฉพาะ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์