ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในปากีสถาน อินเดีย และเนปาล จากคลาวด์เบิร์สต์ (cloudburst) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ฝนตกหนักมากในช่วงเวลาสั้นๆ หรือที่เรียกว่า ฟ้ารั่ว เพิ่มขึ้นรวมกันเป็นมากกว่า 430 คนแล้ว ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกหลายคน ท่ามกลางความพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตที่เป็นไปอย่างยากลำบากของเจ้าหน้าที่กู้ภัย เนื่องจากพื้นที่เต็มไปด้วยดินโคลน
ในปากีสถานและแคว้นกัศมีร์ที่ปากีสถานปกครองมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 344 ราย สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 324 รายในเขตไคเบอร์ปัคตุนควา ซึ่งเป็นจังหวัดบนภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ส่วนในแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 11 ราย ขณะที่อีก 9 รายเสียชีวิตในกิลกิต-บัลติสถาน ซึ่งเป็นภูมิภาคใกล้เคียง
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกพัดหายไปโดยน้ำท่วมฉับพลันหรือเสียชีวิตหลังจากบ้านเรือนและอาคารพังทลาย
ฝนที่ตกหนักยังคงเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 2,000 นายที่กำลังพยายามกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากเศษซากโคลน รวมถึงการค้นหาผู้รอดชีวิตและให้ความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ ยังมีการออกประกาศเตือนภัยฝนตกหนักในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน
การปิดถนนในพื้นที่ห่างไกลยังขัดขวางการเข้าถึงของรถบรรทุกเพื่อช่วยเคลื่อนย้ายเศษซากด้วย
มุขมนตรีจังหวัดไคเบอร์ปัคตุนควาแถลงว่า เฮลิคอปเตอร์ MI-17 ซึ่งบรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ร่วมปฏิบัติการกู้ภัยประสบเหตุตกในปากีสถานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ส่งผลใหลูกเรือ 5 คน รวมถึงนักบิน 2 คน เสียชีวิต
ส่วนที่อินเดีย เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านโชซิติ อันห่างไกลในเทือกเขาหิมาลัย ในแคว้นกัศมีร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดียหลังจากเกิดน้ำท่วมที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 60 ราย
เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีผู้ได้รับการช่วยเหลืออย่างน้อย 300 รายในวันพฤหัสบดี แต่เชื่อว่าผู้สูญหาย 200 รายส่วนใหญ่ถูกน้ำพัดหายไป
ปรากฏการณ์ Cloudburst กำลังเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในภูมิภาคหิมาลัยของอินเดียและทางตอนเหนือของปากีสถาน ส่งผลให้พื้นที่เหล่านี้เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม
แม้ว่าฤดูมรสุมตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนจะนำปริมาณน้ำฝนประจำปีของเอเชียใต้มาประมาณสามในสี่ ซึ่งมีความสำคัญต่อพืชผล แต่ฤดูมรสุมยังนำมาซึ่งดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ปริมาณน้ำฝนรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และความเสียหายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการพัฒนาที่ไม่ได้วางแผนไว้ในพื้นที่ภูเขา
การศึกษาโดย World Weather Attribution พบว่า ปริมาณน้ำฝนในปากีสถานระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน-23 กรกฎาคม หนักขึ้น 10-15% โดยเฉพาะในจังหวัดปัญจาบและไคเบอร์ปัคตุนควา อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
Photo by Mehboob UL HAQ / AFP