ผู้นำยุโรปแสดงการสนับสนุนแผนส่งเสริมสันติภาพยูเครนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) ขณะที่สภาเครมลินของรัสเซียแสดงความสงสัยต่อโอกาสการจัดประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์และ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในเร็ววันนี้
โอกาสการประชุมสุดยอด 'ลดลง'?
ความเป็นไปได้ของการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์-ปูติน ที่จะจัดขึ้นในกรุงบูดาเปสต์ภายใน 2 สัปดาห์ ตามที่ทรัมป์สัญญาไว้ ดูเหมือนจะลดลงในวันอังคาร (21 ต.ค.) หลังรัสเซียเตือนว่า "การประชุม 'อาจใช้เวลานาน'"
การประชุมที่ถูกหยิบยกขึ้นมานี้ทำให้เกิดความหวังใหม่ว่าวอชิงตันและมอสโกอาจตกลงกันได้ แต่อาจส่งผลเสียต่อเคียฟและคุกคามผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของยุโรปในวงกว้าง
แถลงการณ์ร่วมของผู้นำยุโรป
ทรัมป์ยืนยันหลังจากเป็นเจ้าภาพต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ว่า "การเจรจาสันติภาพควรเริ่มต้นบนพื้นฐานของแนวหน้าปัจจุบันกับรัสเซีย" แต่รายงานหลายฉบับระบุว่า "เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้กดดันเคียฟให้ยอมสละดินแดนเป็นการส่วนตัว"
ในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) ผู้นำยุโรปรวมทั้งเซเลนสกี, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, และฟรีดริช เมอซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ต่างก็แสดงการสนับสนุนความพยายามสร้างสันติภาพของทรัมป์
"เราสนับสนุนอย่างแข็งขันจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ที่การต่อสู้ควรหยุดทันที และเส้นการติดต่อปัจจุบันควรเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจา...เรายังคงมุ่งมั่นต่อหลักการที่ว่าพรมแดนระหว่างประเทศจะต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง"
— แถลงการณ์ ระบุ
ตำแหน่งที่แข็งแกร่งสำหรับยูเครน
ผู้นำยุโรปได้ประณามต่อ 'กลยุทธ์การผัดวันประกันพรุ่งของรัสเซีย' ที่แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าท้ายที่สุดแล้วเป็นฝ่ายยูเครนต่างหากที่จริงจังเรื่องสันติภาพ
"ดังนั้นเราจึงต้องแน่ใจว่ายูเครนต้องอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งช่วงก่อน ระหว่าง และหลังการหยุดยิงใดๆ" เหล่าผู้นำยุโรป แสดงความคิดเห็น
การสนับสนุนทางการเงิน
สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาสินเชื่อใหม่ 1.4 แสนล้านยูโร (ราว 5.3 ล้านล้านบาท) สำหรับยูเครน ที่ได้รับเงินทุนจากทรัพย์สินธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัด ซึ่งจะถูกหารือในที่ประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์วันพฤหัสบดีนี้ (23 ต.ค.)
"เราต้องเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจรัสเซียและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ จนกว่าปูตินจะพร้อมสร้างสันติภาพ" แถลงการณ์ ระบุ


